ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับเรือยนต์ด้วยความประมาท แล่นตัดทางเรือยนต์ชื่อฟ้ายิ้ม ในลักษณะที่น่ากลัวจะเกิดการโดนกัน จำเลยมีหน้าที่ต้องหลีกทางให้เรือฟ้ายิ้มซึ่งอยู่ทางขวา แต่จำเลยกลับขับเรือแล่นตัดหน้าเรือฟ้ายิ้มในระยะกระชั้นชิดเป็นเหตุให้เรือชนกันผู้โดยสารในเรือฟ้ายิ้ม 2 คนถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 มาตรา 310 พระราชบัญญัติป้องกันเรือโดนกัน พ.ศ. 2497 มาตรา 5, 6,7, 8 กฎกระทรวง (พ.ศ. 2498) ออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันเรือโดนกัน พ.ศ. 2497

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงฯจึงต้องมีความผิด

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาว่า จำเลยขับเรือเป็ดขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 4 วา กว้าง 1 วาเศษ ติดตั้งเครื่องยนต์มีกำลัง 10 แรงม้าแล่นตัดกระแสน้ำซึ่งกำลังไหลขึ้นทำให้เรือแล่นช้า เรือฟ้ายิ้มเป็นเรือหางยาวเล็กเพรียวยาวประมาณ 1 วา กว้าง 3 ศอก ติดตั้งเครื่องยนต์มีกำลัง 25 แรงม้า แล่นตามกระแสน้ำขึ้นอยู่ทางด้านขวาของเรือจำเลย และแล่นด้วยความเร็วสูง ในขณะที่เรือทั้งสองแล่นตัดทางจนน่ากลัวจะโดนกันนี้ เรือทั้งสองลำเข้ามาอยู่ห่างกันในระยะ 20 วา นายสำรองได้ขับเรือหางยาวด้วยความประมาทใช้ความเร็วสูง เป็นเหตุให้เรือชนกัน เรือหางยาวล่มผู้โดยสารในเรือหางยาวจมน้ำตาย 2 คน

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อฎีกาของโจทก์ที่ว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง (พ.ศ. 2498) ออกตามความในพระราชบัญญัติ ป้องกันเรือโดนกัน พ.ศ. 2497 หมวด 3 ข้อ 20 ที่บัญญัติว่า เมื่อเรือกลสองลำแล่นตัดทางซึ่งกันและกันในลักษณะที่น่ากลัวจะเกิดการโดนกัน เรือที่มีเรือลำอื่นอยู่ทางขวาของตนต้องหลีกให้เรือลำอื่นนั้น เห็นว่า การที่นายสำรองขับเรือหางยาวซึ่งมีกำลังเครื่องยนต์สูงมาด้วยความเร็วและประมาทในระยะกระชั้นชิดเรือของจำเลยเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ เป็นการพ้นวิสัยที่จำเลยจะแล่นเรือหลีกทางให้เรือของนายสำรองได้ เมื่อเป็นกรณีที่ไม่สามารถกระทำได้ การที่จำเลยไม่ได้หลีกทางให้เรือนายสำรองการละเว้นของจำเลยจึงไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎกระทรวงฯ ข้อ 20

โจทก์ฎีกาขอให้ยกกฎกระทรวงฯ หมวด 2 ข้อ 15(ข)(1) ที่บัญญัติว่าเรือกลให้ใช้สัญญาณด้วยหวีด ขึ้นวินิจฉัย เห็นว่าในเรื่องที่จำเลยไม่ได้ใช้สัญญาณด้วยหวีดนี้โจทก์มิได้กล่าวไว้ในฟ้อง ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยให้ไม่ได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th