คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3465/2563
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 91 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 195 วรรคสอง, 225 พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
การที่จำเลยขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีลดราคานั้น เป็นการกระทำที่มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะขายสุราในสถานบริการของจำเลยให้ได้จำนวนมากขึ้น แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องแยกความผิดฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีลดราคาเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขายกับความผิดฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์และจำหน่ายสุราแก่เด็กเป็นข้อ ๆ ต่างหากจากกัน แต่ก็เกิดจากเจตนาอันเดียวกัน จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท หาใช่ความผิดหลายกรรมต่างกันไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เป็นการไม่ชอบ ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นกล่าวอ้างศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้ถูกต้องได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 มาตรา 3, 4, 26 พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 155, 196 พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 3, 29, 30, 40, 41 พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 4, 26, 78 ริบสุรายี่ห้อเบรน 285 ใบเสร็จรับเงิน และแผ่นป้ายแสดงการจัดโปรโมชั่นการจำหน่ายสุราของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 มาตรา 4, 26 พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 155 วรรคหนึ่ง, 196 พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 29 (1), 30 (3), 40, 41 พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26 (3) (10), 78 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จำคุก 6 เดือน ฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ และจำหน่ายสุราแก่เด็ก (ที่ถูก ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักกว่าตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กฯ มาตรา 26 วรรคท้าย) จำคุก 6 เดือน ฐานขายสุราโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ปรับ 4,000 บาท ฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีลดราคาเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขาย จำคุก 4 เดือน และฐานยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด จำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 18 เดือน และปรับ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 9 เดือน และปรับ 2,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบสุรายี่ห้อเบรน 285 จำนวน 12 ขวด ใบเสร็จรับเงิน และแผ่นป้ายแสดงการจัดโปรโมชั่นการจำหน่ายสุราของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยนั้น เห็นว่า แม้การกระทำความผิดของจำเลยจะมีส่วนส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กและเยาวชนประพฤติตนไม่เหมาะสม หรือไม่สมควร แต่จำเลยก็ให้การรับสารภาพมาโดยตลอดตั้งแต่ชั้นสอบสวน อันแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีความรู้สำนึกผิดต่อการกระทำของตน การที่จำเลยถูกจับกุมดำเนินคดีนี้ และถูกกักขังในระหว่างฎีกา 1 วัน น่าจะทำให้จำเลยเข็ดหลาบไปบ้างแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อนและอยู่ในวิสัยที่จะแก้ไขปรับปรุงตนเองได้ ศาลฎีกาเห็นควรให้โอกาสจำเลยด้วยการรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าที่จะจำคุกเสียทีเดียว ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น แต่เพื่อให้หลาบจำ เห็นควรลงโทษปรับอีกสถานหนึ่ง และคุมความประพฤติไว้
อนึ่ง การที่จำเลยขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีลดราคานั้น เป็นการกระทำที่มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะขายสุราในสถานบริการของจำเลยให้ได้จำนวนมากขึ้น แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องแยกความผิดฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีลดราคาเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขายกับความผิดฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์และจำหน่ายสุราแก่เด็ก เป็นข้อ ๆ ต่างหากจากกัน แต่ก็เกิดจากเจตนาอันเดียวกัน จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท หาใช่ความผิดหลายกรรมต่างกันไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เป็นการไม่ชอบ ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นกล่าวอ้าง ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยให้ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษฐานตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ปรับ 20,000 บาท ความผิดฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ฐานจำหน่ายสุราแก่เด็ก และฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีลดราคาเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขาย เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ปรับ 10,000 บาท ฐานยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด ปรับ 10,000 บาท อีกสถานหนึ่ง รวมปรับ 40,000 บาท ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 20,000 บาท เมื่อรวมโทษจำคุกและโทษปรับฐานขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตตามคำพิพากษาของศาลล่างแล้ว เป็นจำคุก 7 เดือน และปรับ 22,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี นับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำเลยฟัง และให้คุมความประพฤติของจำเลยไว้เป็นเวลา 1 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้ง กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.470/2563
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการคดีศาลแขวงนครราชสีมา จำเลย - นาย อ.
ชื่อองค์คณะ สุรทิน สาเรือง กิตติพงษ์ ศิริโรจน์ สันติชัย วัฒนวิกย์กรรม์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลแขวงนครราชสีมา - นายจุฑา เที่ยงธรรม ศาลอุทธรณ์ภาค 3 - นายสิทธิพร บุญยฤทธิ์