ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ที่ 2 ชำระเงิน 213,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลยที่ 1 และยกฟ้องโจทก์

โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินคืนโจทก์ที่ 1 จำนวน 250,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จและให้ยกฟ้องแย้งจำเลยที่ 1

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ปัญหาสุดท้ายจำเลยทั้งสองฎีกาว่าคำฟ้องเดิมโจทก์ระบุชื่อจำเลยที่ 2 ว่า นางเกียว ตันทวานิชต่อมาโจทก์ขอแก้ไขและเพิ่มเติมชื่อจำเลยที่ 2 เป็นนางสาววันทนีย์ หรือนางเกียว แซ่ฉั่ว เท่ากับว่าเดิมโจทก์มิได้ฟ้องจำเลยที่ 2 มาด้วยประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179 มิได้ระบุให้แก้ไขหรือเพิ่มเติมชื่อตัวและชื่อสกุลไว้ การแก้ไขฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่า การขอแก้ไขฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่า การขอแก้ไขคำฟ้องหรือคำให้การที่ระบุไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 179 เป็นเพียงตัวอย่างของเหตุที่คู่ความจะขอแก้ไขได้การขอแก้ไขคำฟ้องหรือคำให้การเมื่อมีเหตุอันสมควร ย่อมกระทำได้แม้ไม่ใช่เป็นเหตุที่ระบุไว้ตามมาตรา 179 ก็ตาม เหตุที่โจทก์เพิ่มเติมชื่อจำเลยที่ 2 อีกชื่อหนึ่งว่า "นางสาววันทนีย์" คงทำไปเพื่อให้ชื่อของจำเลยที่ 2 ชัดเจนขึ้น ส่วนที่โจทก์ขอแก้ไขนามสกุลของจำเลยที่ 2 จาก "ตันทวานิช" มาเป็น "แซ่ฉั่ว" คงทำไปเพื่อความถูกต้อง เพราะนามสกุล ตันทวานิช เป็นนามสกุลของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสามีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสของจำเลยที่ 2จำเลยที่ 2 ย่อมไม่มีสิทธิใช้นามสกุลนี้ โจทก์จึงได้ขอแก้ไขชื่อสกุลของจำเลยที่ 2 ให้ถูกต้อง ตามพฤติการณ์ไม่ใช่เป็นการฟ้องคดีต่างบุคคลกัน โจทก์จึงมีสิทธิ์เพิ่มเติมชื่อจำเลยที่ 2และแก้ไขชื่อสกุลของจำเลยที่ 2 ให้ชัดเจนและถูกต้องได้ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีชอบแล้ว"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา