สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3480/2563

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3480/2563

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ม. 57

การที่จำเลยประกอบกิจการสถานพยาบาลและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตซึ่งตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ได้บัญญัติห้ามมิให้บุคคลใดประกอบกิจการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ตามมาตรา 16 วรรคหนึ่ง กรณีหนึ่ง และห้ามมิให้บุคคลใดดำเนินการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ตามมาตรา 24 วรรคหนึ่ง อีกกรณีหนึ่ง โดยหลักเกณฑ์การขอรับใบอนุญาตทั้งสองกรณีแตกต่างกัน แสดงว่าในแต่ละฐานความผิดต่างมีสภาพและลักษณะของการกระทำประกอบด้วยเจตนาแตกต่างกัน สามารถแยกเป็นคนละส่วนต่างหากจากกันได้ แม้จะมีบทลงโทษอยู่ในมาตรา 57 ด้วยกัน หากมีการกระทำฝ่าฝืนก็จะต้องถูกลงโทษเป็นแต่ละกรณีไป การกระทำของจำเลยในความผิดฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและฐานดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน และเป็นการกระทำที่ต่างจากการประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์หรือประกอบโรคศิลปะโดยมิได้เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ การกระทำของจำเลยในความผิดฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตก็ดี หรือฐานดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตก็ดี กับความผิดฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ฐานประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์และฐานประกอบโรคศิลปะโดยมิได้เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 4, 16, 24, 57 พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 4, 26, 43 พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 มาตรา 4, 30, 57 พระราชบัญญัติวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ พ.ศ.2547 มาตรา 3, 28, 50 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 16 วรรคหนึ่ง, 24 วรรคหนึ่ง, 57 พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 26, 43 พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 มาตรา 30, 57 วรรคหนึ่ง พระราชบัญญัติวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ พ.ศ.2547 มาตรา 28, 50 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุกกระทงละ 1 ปี รวมสองกระทงจำคุก 2 ปี สำหรับความผิดฐานร่วมกันประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ฐานร่วมกันประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์และฐานร่วมกันประกอบโรคศิลปะโดยมิได้เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 1 ปี รวมสองกระทงจำคุก 2 ปี รวมจำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 16 วรรคหนึ่ง, 57 กระทงหนึ่ง และมาตรา 24 วรรคหนึ่ง, 57 อีกกระทงหนึ่ง นอกจากที่แก้ให้เป็นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการแรกในข้อกฎหมายว่า ความผิดฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกันกับความผิดฐานดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ทั้งเป็นกรรมเดียวกันกับความผิดฐานร่วมกันประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ฐานร่วมกันประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์และฐานร่วมกันประกอบโรคศิลปะโดยมิได้เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ หรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยประกอบกิจการสถานพยาบาลและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตซึ่งตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ได้บัญญัติห้ามมิให้บุคคลใดประกอบกิจการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ตามมาตรา 16 วรรคหนึ่ง กรณีหนึ่ง และห้ามมิให้บุคคลใดดำเนินการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ตามมาตรา 24 วรรคหนึ่ง อีกกรณีหนึ่ง โดยหลักเกณฑ์การขอรับใบอนุญาตทั้งสองกรณีแตกต่างกัน แสดงว่าในแต่ละฐานความผิดต่างมีสภาพและลักษณะของการกระทำประกอบด้วยเจตนาแตกต่างกัน สามารถแยกเป็นคนละส่วนต่างหากจากกันได้ แม้จะมีบทลงโทษอยู่ในมาตรา 57 ด้วยกัน หากมีการกระทำฝ่าฝืนก็จะต้องถูกลงโทษเป็นแต่ละกรณีไป การกระทำของจำเลยในความผิดฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและฐานดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน และเป็นการกระทำที่ต่างจากการประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์หรือประกอบโรคศิลปะโดยมิได้เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ การกระทำของจำเลยในความผิดฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตก็ดี หรือฐานดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตก็ดี กับความผิดฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ฐานประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์และฐานประกอบโรคศิลปะโดยมิได้เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ที่จำเลยฎีกาประการต่อมาว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาลงโทษจำเลยหนักเกินไปและขอให้รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย นั้น เห็นว่า ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ 1 ปี และยังลดโทษให้เพราะจำเลยให้การรับสารภาพอีกกระทงละกึ่งหนึ่ง นับว่าเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีและเป็นคุณแก่จำเลยมากแล้ว ไม่มีเหตุที่จะลงโทษจำคุกจำเลยต่ำกว่านี้ และการที่จำเลยประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ทำการตรวจรักษาบุคคลหลายคนเพื่อหวังประโยชน์ตอบแทน โดยมิได้เป็นผู้มีวิชาชีพตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจทำให้บุคคลที่จำเลยตรวจรักษาได้รับอันตราย และจำเลยเคยกระทำความผิดลักษณะเดียวกันมาแล้ว ซึ่งศาลให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีโดยการรอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้ แต่จำเลยกลับมากระทำความผิดคดีนี้อีก แสดงว่าจำเลยไม่เข็ดหลาบ การรอการลงโทษใช้ไม่ได้ผลกับจำเลย ตามพฤติการณ์แห่งคดีจึงไม่สมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.1143/2563

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ จำเลย - นาย ส.

ชื่อองค์คณะ กษิดิศ มงคลศิริภัทรา วีรวิทย์ สายสมบัติ ชัยพัฒน์ ชินวงศ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ - นายวิสูตร เจนสุทธิประเสริฐ ศาลอุทธรณ์ภาค 4 - นายนภดล ลัญฉเวโรจน์

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE