สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3485/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3485/2539

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 147 พระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ.2477 ม. 15, 58

พระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทยพ.ศ.2519มาตรา15บัญญัติให้พนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาจำเลยดำรงตำแหน่งพนักงานการสื่อสารแห่งประเทศไทยทำหน้าที่บุรุษไปรษณีย์มีหน้าที่ปิดเปิดถุงไปรษณีย์ภัณฑ์และคัดเลือกไปรษณีย์ภัณฑ์เข้าด้านจ่ายได้เบียดบังเอาจดหมายต่างประเทศต้นทางเยอรมันและบราซิลเป็นของตนโดยทุจริตและตั้งใจกักหรือหน่วงเหนี่ยวไปรษณีย์ภัณฑ์ในระหว่างทางไปรษณีย์ย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา147และพระราชบัญญัติไปรษณีย์พ.ศ.2477มาตรา58

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147พระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ. 2477 มาตรา 58

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 พระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ. 2477 มาตรา 58 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 5 ปี

จำเลย อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

จำเลย ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ที่จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า จำเลยเป็นพนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจตามพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 จำเลยจึงมิใช่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ไม่ได้นั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าขณะเกิดเหตุจำเลยดำรงตำแหน่งพนักงานการสื่อสารแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่บุรุษไปรษณีย์ระดับ 3 ประจำที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขพระโขนง มีหน้าที่ปิดเปิดถุงไปรษณีย์ภัณฑ์และคัดเลือกไปรษณีย์ภัณฑ์เข้าด้านจ่ายโดยอยู่เวรก. ปรากฎตามคำสั่งที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขพระโขนงที่ 27/2530เอกสารหมาย จ.2 จำเลยจึงมีหน้าที่จัดการไปรษณีย์ภัณฑ์ดังกล่าวและตามพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 มาตรา 15บัญญัติให้พนักงานของการสื่อสารแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น การที่จำเลยเบียดบังเอาจดหมายธรรมดาต่างประเทศต้นทางเยอรมันและบราซิลอย่างละ 1 ฉบับรวม 2 ฉบับ เป็นของจำเลยโดยทุจริตและจำเลยตั้งใจกักหรือหน่วงเหนี่ยวไปรษณีย์ภัณฑ์ในระหว่างส่งทางไปรษณีย์ การกระทำของจำเลยดังกล่าวย่อมเป็นความผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147และต่อพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ. 2477 มาตรา 58ดังที่โจทก์ฟ้อง ฉะนั้นที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งเป็นบทกฎหมายบทหนักนั้นชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด จำเลย - นาย เผือด หอมชื่น

ชื่อองค์คณะ สุรินทร์ นาควิเชียร สละ เทศรำพรรณ ถวิล อินทรักษา

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th