ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 268, 352, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 6 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์24,500 บาท แก่ผู้เสียหายด้วย และขอนับโทษคดีนี้ต่อจากคดีแดงที่ 1298/2532 ของศาลชั้นต้น

จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ ขอให้นับโทษต่อ

ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น นายสุวิชัย บุญทองผู้เสียหาย แถลงว่าไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลยต่อไป และขอถอนคำร้องทุกข์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 จึงระงับ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 (ที่ถูกเป็นมาตรา 264 วรรคแรก), 268 ลงโทษตามมาตรา 268 วรรคสอง จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก 6 เดือน ให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์ 24,500 บาท แก่ผู้เสียหาย และนับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1298/2532 ของศาลชั้นต้น

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 ด้วย

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกด้วยนั้น เห็นว่า นายสุวิชัยผู้เสียหายได้ยื่นคำร้องว่า ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยต่อไป ทั้งได้แถลงต่อศาลด้วยว่า ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยต่อไปและขอถอนคำร้องทุกข์ ถือว่าเป็นการถอนคำร้องทุกข์ และยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมายในความผิดฐานยักยอก ซึ่งเป็นความผิดต่อส่วนตัวสิทธินำคดีอาญามาฟ้องเกี่ยวกับความผิดดังกล่าวย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

ส่วนที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์จำนวน24,500 บาท แก่ผู้เสียหายนั้น เห็นว่า คำพิพากษาส่วนนี้เป็นคำพิพากษาในคดีส่วนแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีส่วนอาญาที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 เมื่อปรากฏว่าสิทธินำคดีอาญามาฟ้องในความผิดฐานยักยอกระงับไปแล้ว ก็ย่อมทำให้คำขอในคดีส่วนแพ่งดังกล่าวของโจทก์เป็นอันตกไปทั้งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43มิได้ให้อำนาจพนักงานอัยการที่ยื่นฟ้องคดีอาญาในความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมให้เรียกทรัพย์สินหรือราคาแทนผู้เสียหายได้ ดังนั้น คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองในส่วนนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นอ้างและแก้ไขให้ถูกต้องเสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225"

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์จำนวน 24,500 บาท แก่ผู้เสียหายนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th