ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินต้นจำนวน6,777,916.67 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ให้การว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้ลงลายมือชื่ออาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 5,000,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ส่วนจำเลยที่ 2 ฟังไม่ได้ว่าเป็นผู้รับอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ขอให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1ตามฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้มีการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 ใหม่ โดยผู้เชี่ยวชาญของศาลซึ่งขึ้นทะเบียนไว้และไม่ใช่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วโจทก์แถลงหมดพยาน ในระหว่างสืบพยานจำเลย ทนายจำเลยแถลงขอให้ศาลส่งลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 ตามที่ปรากฏในตั๋วสัญญาใช้เงินเอกสารหมาย จ.13 ไปให้ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจตรวจพิสูจน์โดยเปรียบเทียบกับลายมือชื่ออันแท้จริงของจำเลยที่ 2 ในเอกสารหมาย จ.8 และ จ.34 ศาลชั้นต้นอนุญาตและให้จำเลยที่ 2 ลงชื่อในกระดาษเบอร์ 40 จำนวน 2 แผ่น ต่อหน้าศาลส่งไปตรวจพิสูจน์ด้วย โจทก์ไม่คัดค้าน ดังปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2530 ต่อมาศาลชั้นต้นได้ส่งเอกสารที่มีลายมือชื่ออันแท้จริงของจำเลยที่ 2 ไปให้กองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจเพิ่มเติมตามที่ขอมา ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจได้แจ้งผลการตรวจพิสูจน์มายังศาลชั้นต้นว่าลายมือชื่อจำเลยที่ 2 ในตั๋วสัญญาใช้เงินเอกสารหมาย จ.13 กับลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 ในเอกสารตัวอย่างไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน ตามเอกสารหมาย ล.2 ศาลชั้นต้นได้แจ้งให้คู่ความทราบแล้ว ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 4 มีนาคม 2531แม้ต่อมาโจทก์จะยื่นคำแถลงลงวันที่ 3 มิถุนายน 2531 คัดค้านว่าจำเลยที่ 2 มิได้จัดหาต้นฉบับอันแท้จริงของเอกสารหมาย จ.8 และจ.34 และจำเลยที่ 2 มิได้ลงลายมือชื่อในกระดาษต่อหน้าศาลเพื่อให้ศาลชั้นต้นส่งไปตรวจพิสูจน์เพิ่มเติมในครั้งหลังก็ตาม ก็เป็นเรื่องการสืบพยานจำเลยที่ 2 มิใช่ของโจทก์ เพราะโจทก์ได้นำสืบพยานหลักฐานเสร็จสิ้นไปก่อนแล้ว โจทก์จะขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาและผลการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว และขอให้มีการตรวจพิสูจน์ใหม่หลังจากจำเลยที่ 2 ได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์เสร็จสิ้นไปแล้วไม่ได้เป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th