ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80และริบมีดของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จำคุก 2 ปี และริบมีดของกลาง คำขออื่นให้ยก

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 จำคุก 10 ปี นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยใช้มีดของกลางแทงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าหรือไม่ ตามปัญหาดังกล่าวนั้น ผู้เสียหายเบิกความว่าขณะที่จำเลยเมาสุราส่งเสียงเอะอะโวยวาย ผู้เสียหายเข้าไปห้ามจำเลย โดยยืนอยู่ข้างหน้าจำเลยห่างกันประมาณ 2 เมตร ทันใดนั้นเอง จำเลยชักมีดจากเอวจ้วงแทงไปที่บริเวณหน้าท้องของผู้เสียหาย ผู้เสียหายหลบและหันหลังวิ่งหนี จำเลยแทงผู้เสียหายอีก 1 ที ถูกที่หัวไหล่ซ้ายและวิ่งตามผู้เสียหายไปห่าง ๆ ก็มีผู้ห้ามจำเลยไว้ ส่วนนายกั้ง วิไลรัตน์ และนายสมนึก สังข์พรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่เกิดเหตุ เบิกความเป็นพยานโจทก์ว่าขณะเกิดเหตุ ผู้ที่ไปในงานศพชุลมุนกัน นายสมนึกเข้าไประงับเหตุการณ์ แล้วผู้เสียหายออกมาจากที่ชุลมุน มีบาดแผลถูกแทงที่หัวไหล่ซ้ายส่วนจำเลยยืนถือมีดอยู่นายสมนึกสอบถามได้ความว่าจำเลยเป็นผู้แทงผู้เสียหาย ตามที่พยานโจทก์ทั้งสามคนเบิกความดังกล่าวข้างต้นเห็นว่า ผู้เสียหายกับจำเลยเป็นเพื่อนบ้านกัน ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกัน จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายในระหว่างเกิดเหตุชุลมุน แม้จำเลยใช้มีดของกลางยาวประมาณ 7 -8 นิ้ว เป็นอาวุธ และครั้งแรกจำเลยแทงไปที่ท้องของผู้เสียหายแต่ขณะนั้นจำเลยเมาสุรายืนอยู่ห่างผู้เสียหายประมาณ 2เมตร สภาพเหตุการณ์ในขณะเกิดเหตุเช่นนั้น จำเลยย่อมไม่มีโอกาสเลือกแทงผู้เสียหายและคาดหมายไม่ได้ว่าจะแทงถูกผู้เสียหายตรงส่วนสำคัญของร่างกาย ทั้งการที่จำเลยแทงผู้เสียหายครั้งแรกนั้นก็หาถูกร่างกายของผู้เสียหายไม่ส่วนการที่จำเลยแทงผู้เสียหายครั้งที่สองเป็นบาดแผลที่หัวไหล่ซ้ายในขณะที่ผู้เสียหายหันหลังวิ่งหนีไปนั้นก็ปรากฏบาดแผลตามที่แพทย์ตรวจบันทึกไว้ว่า 'มีบาดแผลบริเวณไหล่ซ้ายด้านหลังยาวประมาณ 3 เซนติเมตร ขอบเรียบ ฉีกถึงชั้นกล้ามเนื้อใช้เวลารักษาประมาณ 7 วัน' ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นบาดแผลที่มิใช่ส่วนสำคัญของร่างกายและไม่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ตามพฤติการณ์และบาดแผลที่จำเลยแทงผู้เสียหายดังกล่าวยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเท่านั้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา 1

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th