ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกของนางศรีสมร ผู้ตาย และให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านและแก้ไขคำคัดค้านขอให้ศาลมีคำสั่งให้พินัยกรรมฉบับดังกล่าวเป็นโมฆะ และยกคำร้องของผู้ร้องทั้งสองกับมีคำสั่งตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้องของผู้ร้องทั้งสองและยกคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองฝ่ายให้เป็นพับ

ผู้ร้องทั้งสองและผู้คัดค้านอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ตั้งนางธัญญ์ชยาหรือชนัญญ์ชยา ผู้คัดค้าน เป็นผู้จัดการมรดกของนางศรีสมร ผู้ตาย กับให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง

ผู้ร้องสอดอุทธรณ์

ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา ศาลฎีกาไม่อนุญาต

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมสองศาลให้เป็นพับ

ผู้ร้องสอดอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

ผู้ร้องสอดฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เดิมคดีนี้ ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องอย่างคดีไม่มีข้อพิพาท ขอศาลตั้งผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกของนางศรีสมร ผู้ตาย โดยมีข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา คือ พินัยกรรมของนางศรีสมร ฉบับลงวันที่ 6 ธันวาคม 2557 ซึ่งพินัยกรรมมีข้อความระบุผู้ร้องทั้งสองเป็นทายาทตามพินัยกรรม และให้ผู้ร้องทั้งสองร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งประกาศตามคำร้องขอ ผู้ร้องทั้งสองโดยชอบแล้ว ต่อมาผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน โดยมีข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา คือ สิทธิในฐานะทายาทโดยธรรมเพียงคนเดียวของนางศรีสมร ผู้ตาย มีคำขอบังคับให้ศาลเพิกถอนพินัยกรรม อ้างเหตุว่า ผู้ตายทำพินัยกรรมจริง แต่ทำโดยการใช้กลฉ้อฉลและสำคัญผิดตกเป็นโมฆะ และอ้างเหตุว่าผู้ร้องทั้งสองมิใช่ทายาทโดยธรรม หรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำคัดค้านว่า "รับคำคัดค้านสำเนาให้ผู้ร้องทั้งสอง จึงให้ดำเนินคดีต่อไปอย่างคดีมีข้อพิพาท" เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188 บัญญัติว่า "ในคดีที่ไม่มีข้อพิพาท ให้ใช้ข้อบังคับดังต่อไปนี้ (1) ให้เริ่มคดีโดยยื่นคำร้องขอต่อศาล…4) ถ้าบุคคลอื่นใดนอกจากคู่ความที่ได้ยื่นฟ้องคดีอันไม่มีข้อพิพาท ได้เข้ามาเกี่ยวข้องในคดีโดยตรง หรือโดยอ้อม ให้ถือว่าบุคคลเช่นว่ามานี้เป็นคู่ความ และให้ดำเนินคดีไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยคดีอันมีข้อพิพาท…" ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มีบทบัญญัติเรื่องวิธีพิจารณาในศาลชั้นต้น เกี่ยวกับคดีมีข้อพิพาทไว้ตาม ภาค 2 ลักษณะ 1 วิธีพิจารณาสามัญในศาลชั้นต้น มาตรา 170 ถึงมาตรา 188 ดังนี้ เมื่อคำคัดค้านของผู้คัดค้านมีคำขอบังคับเป็นประเด็นสำคัญสองประการ ประการแรก คือ ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนพินัยกรรมของผู้ตายโดยผู้คัดค้านกล่าวอ้างข้อเท็จจริงใหม่ว่า พินัยกรรมตกเป็นโมฆะ ด้วยเหตุการการใช้กลฉ้อฉลและสำคัญผิด เท่ากับผู้คัดค้านโต้แย้งสิทธิโดยตรงต่อทายาทตามพินัยกรรมทุกคน เพราะหากฟังได้ตามคำคัดค้านเท่ากับทายาทตามพินัยกรรมย่อมไม่ได้รับสิทธิตามที่ระบุในพินัยกรรมและกระทบกระเทือนโดยอ้อมตามข้ออ้างของผู้คัดค้านที่อ้างว่า มีการใช้กลฉ้อฉล และสำคัญผิด คำคัดค้านของผู้คัดค้านจึงเท่ากับเป็นคำฟ้องต่อทายาทตามพินัยกรรมทุกคน และเป็นคำฟ้องแย้งต่อผู้ร้องทั้งสองด้วย ทั้งกรณีจะถือว่าผู้ร้องทั้งสองเป็นตัวแทนของทายาทตามพินัยกรรมทุกคนก็มิได้ เพราะยังไม่มีการตั้งผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงชอบที่จะมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านนำส่งหมายเรียก พร้อมสำเนาคำคัดค้านต่อทายาทตามพินัยกรรมทุกคน และผู้ร้องทั้งสอง เพื่อให้การต่อสู้คดีตามบทบัญญัติในมาตรา 172 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 57 (3) มาตรา 173 วรรคหนึ่งและมาตรา 177 แห่งประมวลกฎหมายดังกล่าวข้างต้น และเมื่อพิจารณาในส่วนของคำขอบังคับประการที่สอง ผู้คัดค้านมีคำขอให้ตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายโดยผู้คัดค้านอ้างสิทธิในฐานะเป็นทายาทโดยธรรมแต่เพียงผู้เดียวของเจ้ามรดกผู้ตาย นั้น ตามเอกสารในสำนวนศาลชั้นต้นในขณะนั้น ปรากฏตามเอกสารท้ายคำร้องของผู้ร้องทั้งสอง อ้างบัญชีเครือญาติผู้ตายระบุว่านางศรีสมร ผู้ตาย มีบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย 3 คน คือ ผู้คัดค้าน, นายศรพร ซึ่งถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดก (ไม่มีทายาท) และนายวัลลภ โดยระบุว่านายวัลลภ ซึ่งถึงแก่ความตายไปก่อนเจ้ามรดก มีบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายอีก 7 คน เท่ากับว่าหากพินัยกรรมตกเป็นโมฆะดังที่ผู้คัดค้านอ้าง ทรัพย์มรดกของผู้ตายย่อมตกเป็นสิทธิของทายาทโดยธรรม ซึ่งรวมถึงทายาทที่มีสิทธิรับมรดกแทนที่นายวัลลภคือบุตรทั้ง 7 คน ดังกล่าวข้างต้นซึ่งรวมถึงผู้ร้องสอดในคดีนี้ด้วย นอกจากนี้ยังอาจมีทายาทโดยธรรมอื่นอีกที่ไม่ปรากฏรวมถึงอาจมีผู้มีส่วนได้เสียอื่นอีก เช่น เจ้าหนี้กองมรดก ซึ่งบุคคลเหล่านี้ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียทั้งโดยตรงและโดยอ้อมที่มีสิทธิเข้ามาในคดีนี้ได้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ดำเนินคดีอย่างคดีมีข้อพิพาทแล้ว จึงชอบที่จะต้องสั่งให้ผู้คัดค้านส่งหมายนัดพร้อมสำเนาคำคัดค้านให้ทายาทโดยธรรมทุกคนตามรายชื่อที่ปรากฏในขณะนั้น รวมถึงสั่งให้มีการประกาศสาธารณะคำคัดค้านเพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียอื่นที่อาจมี ได้ทราบและเข้ามาปกป้องสิทธิได้ การที่ผู้คัดค้านอ้างในคำคัดค้านว่าเป็นทายาทโดยธรรมแต่เพียงผู้เดียว จึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในสำนวนและมีผลทำให้ผู้มีส่วนได้เสียอื่นรวมทั้งผู้ร้องสอด และผู้ร้องอื่นอีกหลายคนตามที่ปรากฏในเวลาต่อมา ไม่ทราบข้อโต้แย้งสิทธิตามคำคัดค้าน และเป็นเงื่อนไขให้เกิดข้อพิพาทขยายตัวทำให้การจัดการมรดกไม่อาจดำเนินการได้สำเร็จเรียบร้อย ถือว่าศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนี้ในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรม และเป็นกรณีเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนในเรื่องการส่งคำคู่ความ และการพิจารณาคดี อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ประกอบมาตรา 246 และ 252 เห็นควรให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาและให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตามกระบวนการดังวินิจฉัยมาข้างต้น และกรณีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของผู้ร้องสอด เพราะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงผลคดี

พิพากษากลับ ให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นนับแต่คำสั่งรับคำคัดค้าน ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ทั้งหมด โดยให้ดำเนินกระบวนการเกี่ยวกับการประกาศสาธารณะคำคัดค้านและการส่งคำคู่ความพร้อมหมายเรียกและหรือหมายนัดแก่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดใหม่แล้วให้พิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ยกฎีกาผู้ร้องสอด ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลเป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พ.7/2565

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th