ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358,334, 91

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้อง ให้ประทับฟ้องเฉพาะข้อหาทำให้เสียทรัพย์

จำเลยให้การปฏิเสธ

วันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงยกฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์ และมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาประการแรกว่า โจทก์ยื่นอุทธรณเกินกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษา คือวันที่16 สิงหาคม 2531 นั้นเห็นว่าอุทธรณ์ของโจทก์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2531 โจทก์ยื่นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 14กันยายน 2531 อยู่ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ศาลอ่านคำสั่งจึงเป็นการชอบแล้ว ประการที่สองจำเลยฎีกาว่า โจทก์มิได้วางเงินค่าส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยเท่ากับโจทก์ทิ้งฟ้องอุทธรณ์แล้วเห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 200 ได้บัญญัติไว้ว่า "ให้ศาลส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งแก้ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันรับ" ดังนี้จึงเป็นหน้าที่ของศาลที่จะส่งสำเนาให้จำเลยโดยตรง โจทก์จึงไม่จำต้องวางเงินค่าส่งสำเนาอุทธรณ์ประการที่สามจำเลยฎีกาว่าการที่ศาลชั้นต้นมิได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษานั้น ทำให้การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ไม่ชอบ ข้อนี้การพิจารณาพิพากษาของศาลอุทธรณ์ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 200 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยชัดแจ้ง แต่เนื่องจากระยะเวลาที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนได้ล่วงเลยมาจนศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีแล้ว ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรวินิจฉัยคดีไปเสียทีเดียวโดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ ในส่วนที่เกี่ยวกับเนื้อหาแห่งคดีนั้น จำเลยฎีกาว่า กรณีเป็นเรื่องชั้นพิจารณา มิใช่ชั้นไต่สวนมูลฟ้องจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 โจทก์จึงขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ไม่ได้ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 181 กำหนดให้นำบทบัญญัติในมาตรา 139 และ 166 มาบังคับแก่การพิจารณาโดยอนุโลม ดังนั้นศาลชั้นต้นจึงชอบที่จะยกมาตรา 166 ดังกล่าวมาปรับแก่คดีได้

สำหรับในปัญหาที่ว่า โจทก์มีเหตุที่จะขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาได้หรือไม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกฟ้องโจทก์เนื่องจากโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ แต่ในวันดังกล่าวทนายโจทก์ได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายโจทก์มายื่นต่อศาลด้วย ซึ่งศาลได้สั่งว่า ตัวความยังไม่ทราบจึงไม่อนุญาตแสดงว่าตัวโจทก์อาจเข้าใจว่าทนายโจทก์คงจะมาศาลในวันนั้น และโจทก์อ้างว่า ในวันนัดตัวโจทก์อยู่ที่จังหวัดสกลนครเพื่อจัดการงานศพของมารดาภรรยาโจทก์และต้องดูแลอาการป่วยของภรรยาโจทก์กับโจทก์เข้าใจว่า ในวันนัดดังกล่าวทนายโจทก์จะสืบพยานคนอื่นก่อนส่วนโจทก์จะเข้าสืบในวันนัดภายหลัง โจทก์มิได้จงใจที่จะไม่มาศาลตามกำหนดนัด และโจทก์ไม่ทราบมาก่อนว่าทนายโจทก์ขอถอนตัวออกจากเป็นทนายให้โจทก์ กรณีดังกล่าวหากเป็นความจริงตามคำร้องของโจทก์ก็ถือว่าโจทก์ได้แสดงให้ศาลเห็นได้ว่ามีเหตุสมควรจึงมาไม่ได้ที่ศาลชั้นต้นด่วนวินิจฉัยสั่งยกคำร้องของโจทก์เสียโดยไม่ไต่สวนเป็นการไม่ชอบ

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th