ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


ข้อเท็จจริงได้ความว่าเดิมจำเลยออกเช็คเงิน 64,000 บาท ให้ผู้เสียหาย 1 ฉบับ กำหนดยื่นเช็คต่อธนาคารขอรับเงินใน 10 เดือนครั้นถึงกำหนดผู้เสียหายเอาเช็คไปขึ้นเงินธนาคารไม่จ่ายเงินผู้เสียหายจึงร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีแก่จำเลยนายย่งตุ้นมาเจรจาขอให้ผู้เสียหายประนีประนอม ผู้เสียหายให้โอกาสจำเลยผัดไป 6 เดือน โดยจำเลยออกเช็คฉบับใหม่ให้ผู้เสียหายแต่ถึงกำหนดเช็คฉบับใหม่นี้ก็ขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้อีกเนื่องจากจำเลยไม่มีเงินในธนาคาร ผู้เสียหายจึงฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่ง เรียกเงินตามเช็ค ในคดีแพ่งคู่กรณีได้ประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยยอมใช้เงินให้โจทก์ภายใน 15 วัน นับแต่วันทำยอมแต่ในวันเดียวกันนั้นเอง ผู้เสียหายก็ได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานให้ดำเนินคดีแก่จำเลยและแล้วอัยการโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาในเรื่องนี้ขอให้ลงโทษจำเลยฐานออกเช็คไม่มีเงินตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างให้ปรับ 2 เท่าราคาเงินที่ระบุในเช็คเป็นเงิน 128,000 บาทถ้าไม่ชำระค่าปรับให้กักขัง แทนค่าปรับมีกำหนด 1 ปี 6 เดือนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้เสียหายกับจำเลยได้ประนีประนอมยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ได้บัญญัติว่า ในคดีความผิดต่อส่วนตัวถ้าได้มีการยอมความโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้วสิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับ ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า คดีนี้เกี่ยวกับความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โจทก์มุ่งประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยในทางอาญา แต่ก็ปรากฏว่า ผู้เสียหายเคยร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ผู้เสียหายก็ตกลงให้จำเลยออกเช็คให้ใหม่ ครั้นไม่ได้รับชำระอีกผู้เสียหายก็ฟ้องเป็นคดีแพ่ง ไม่ได้ดำเนินทางอาญา ต่อมาได้ตกลงประนีประนอมยอมความกัน ให้จำเลยชำระเงินภายใน 15 วัน นับจากวันทำยอมในคดีแพ่งดังกล่าวเสียแล้ว แม้ในสัญญายอมตามที่ผู้เสียหายและจำเลยกระทำกันในคดีแพ่งนี้ จะไม่ได้พูดถึงทางอาญาเลย แต่ตามพฤติการณ์ต่าง ๆที่ผู้เสียหายและจำเลยได้ปฏิบัติต่อกันมาดังกล่าวแล้ว ย่อมเห็นได้ว่า มุ่งหมายจะให้ระงับคดีในทางอาญาด้วย ฉะนั้น แม้ผู้เสียหายจะไปร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีอาญาเกี่ยวกับเช็ครายนี้แก่จำเลยอีกก็ตาม แต่เมื่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 4 ก็ได้บัญญัติว่า เป็นความผิดต่อส่วนตัวการที่ผู้เสียหายกับจำเลยได้ตกลงประนีประนอมยอมความกันในกรณีนี้จึงมีผลทำให้สิทธิที่จะนำคดีอาญามาฟ้องระงับไป ศาลฎีกาพิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









