ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2524 นายสา น้อยสีบิดาจำเลยได้ขายที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 2 แปลง คือที่ดิน (น.ส.3) เลขที่ 6 และ (น.ส.3ก.) เลขที่ 1719 ตำบลผักขวงอำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ เนื้อที่ 5 ไร่ และ 9 ไร่ ตามลำดับ ให้แก่โจทก์ในราคา 75,500 บาท นายสาได้รับเงินครบถ้วนแล้ว และมอบการครอบครองให้โจทก์ตั้งแต่วันทำสัญญา โจทก์ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมากว่า 9 ปี ต่อมาวันที่ 21 มกราคม 2529 นายสาตาย จำเลยได้ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายสาต่อศาลจังหวัดอุตรดิตถ์โดยอ้างว่าที่ดินทั้ง 2 แปลง เป็นมรดกของนายสาจะเข้ามาจัดการแบ่งแยกที่ดินดังกล่าว อันเป็นการโต้แย้งและรบกวนสิทธิครอบครองของโจทก์ ขอให้พิพากษาว่า โจทก์เป็นผู้ครอบครองที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าว

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า การที่จำเลยร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายสาไม่เป็นการโต้แย้งหรือรบกวนสิทธิครอบครองของโจทก์เพราะที่พิพาทเป็นมรดกของนายสาซึ่งตกทอดแก่จำเลยผู้เป็นทายาทจำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง ขอให้ยกฟ้องและพิพากษาว่า จำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า การที่จำเลยขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายสาโดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นทรัพย์มรดก ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ขอให้ยกฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์เสร็จ เห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้แล้วจึงให้งดสืบพยานจำเลย

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฟ้องแย้งของจำเลย พิพากษายกฟ้อง

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า นายสาขายที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 2 แปลง ซึ่งเป็นที่พิพาทให้แก่โจทก์ในราคา 75,000 บาท นายสาได้รับเงินครบถ้วนแล้วและมอบการครอบครองที่พิพาทให้โจทก์ตั้งแต่วันทำสัญญา โจทก์ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมากว่า 9 ปี จำเลยยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายสา ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท ศาลฎีกาเห็นว่าคำบรรยายฟ้องของโจทก์ดังกล่าว ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำการอันเป็นการรบกวนการครอบครองหรือแย่งสิทธิครอบครองของโจทก์แต่อย่างใด อันจะถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th