ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้ธนาคารสหมาลายัน จำกัด เจ้าหนี้รายที่ 4 ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ คือ อันดับ 1 เป็นหนี้ตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1328/2515 จำนวนเงิน 877,948 บาท 50 สตางค์ อันดับที่ 2เป็นหนี้ตามหนังสือค้ำประกันหนี้เบิกเงินเกินบัญชีของบริษัท เอ็ม ไทยไมนิ่ง จำกัด จำนวนเงิน 4,543,904 บาท 99 สตางค์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นัดเจ้าหนี้และลูกหนี้มาตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 104 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 แล้ว

ลูกหนี้ยื่นคำคัดค้านว่า หนี้ตามคำพิพากษามีเพียง 200,000 บาท เท่านั้นส่วนหนี้ตามหนังสือค้ำประกันเบิกเงินเกินบัญชีของบริษัท เอ็ม ไทยไมนิ่ง จำกัด นั้น ธนาคารได้ฟ้องบริษัท เอ็ม ไทยไมนิ่ง จำกัด และลูกหนี้เป็นคดีล้มละลายตามคดีหมายเลขดำที่ ล.98/2520 ของศาลแพ่งคดีอยู่ระหว่างศาลพิจารณาการค้ำประกันรายนี้ไม่ได้ค้ำประกันรับผิดเป็นส่วนตัว

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนคำขอรับชำระหนี้แล้วมีความเห็นให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้อันดับ 1 ซึ่งเป็นหนี้ตามคำพิพากษาจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามมาตรา 130(8) ส่วนที่ขอเกินมาให้ยก ให้ได้รับชำระหนี้อันดับ 2 คือหนี้ตามหนังสือค้ำประกันเบิกเงินเกินบัญชีของบริษัท เอ็ม ไทยไมนิ่ง จำกัด จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามมาตรา 130(8) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 โดยมีข้อแม้ว่า หากเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของบริษัท เอ็ม ไทยไมนิ่ง จำกัด ผู้ล้มละลายเพียงใดก็ให้สิทธิเจ้าหนี้ที่จะได้รับชำระหนี้ลดลงเพียงนั้น ส่วนที่ขอเกินมาให้ยก

ศาลชั้นต้น มีคำสั่งให้ธนาคารสหมาลายัน จำกัด เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

ลูกหนี้อุทธรณ์เฉพาะหนี้อันดับที่ 2 ซึ่งเป็นหนี้ตามหนังสือสัญญาค้ำประกันเบิกเงินเกินบัญชีของบริษัท เอ็ม ไทยไมนิ่ง จำกัด โดยอุทธรณ์ว่าศาลควรจะรอมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้รายนี้ไว้จนกว่าคดีล้มละลาย ที่ธนาคารเจ้าหนี้เป็นโจทก์ฟ้องบริษัท เอ็ม ไทยไมนิ่ง จำกัด กับพวกเป็นจำเลยถึงที่สุดเสียก่อนเพราะเป็นหนี้ที่แบ่งแยกกันไม่ได้

ศาลอุทธรณ์ พิจารณาแล้วพิพากษายืน

ลูกหนี้ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติล้มละลายมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของเจ้าหนี้ทั้งหลายให้ได้รับชำระหนี้โดยเป็นธรรม ตามส่วนเฉลี่ยแห่งหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ ป้องกันมิให้ลูกหนี้ยักย้ายถ่ายเททรัพย์ของตนมิให้ถูกบังคับชำระหนี้ และให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้โดยรวดเร็ว ดังจะเห็นได้จากมาตรา 153 ที่บัญญัติว่ากระบวนพิจารณาคดีล้มละลายให้ดำเนินเป็นการด่วน ที่ลูกหนี้ถูกฟ้องเป็นจำเลยและร่วมกับบริษัท เอ็ม ไทยไมนิ่งจำกัดในคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ 56/2522 ของศาลแพ่งนั้น เมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ในคดีนี้ ศาลแพ่งก็ได้จำหน่ายคดีเฉพาะลูกหนี้แล้วลูกหนี้และบริษัท เอ็ม ไทยไมนิ่ง จำกัด มิได้มีเจ้าหนี้แต่เฉพาะเจ้าหนี้ในคดีนี้ แต่อาจจะมีเจ้าหนี้หลายรายแตกต่างกันไป ถ้าศาลจะรอมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้รายนี้ไว้จนกว่าคดีล้มละลายของศาลแพ่งหมายเลขแดงที่ 56/2522 จะถึงที่สุดก่อน ก็ย่อมจะเสียหายแก่เจ้าหนี้รายอื่น ๆ จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะรอมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้รายนี้ไว้

ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 105 นั้นแสดงว่าการสอบสวนเรื่องหนี้สินเกี่ยวกับคำขอรับชำระหนี้นั้น เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่ได้สอบสวนมาแล้วเพียงพอที่จะนำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระหนี้นั้นต่อศาลได้แล้ว หรือพยานที่เจ้าหนี้หรือลูกหนี้อ้างมาให้การฟุ่มเฟือยเกินสมควรหรือประวิงให้ชักช้า หรือไม่เกี่ยวแก่ประเด็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจที่จะงดการสอบสวนได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th