ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2491มาตรา 32, 65, 70 และขอให้ริบของกลาง

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุกคนละ 1 เดือนและปรับคนละ 400 บาท โทษจำคุกรอไว้คนละ 1 ปี ของกลางริบ

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยฎีกาว่าประกาศกระทรวงเกษตรเรื่อง กำหนดเขตห้ามใช้เครื่องมืออวนลากและอวนรุนที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมงฉบับลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2515 นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรออกประกาศโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 32(2) และ (4) แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2491 แต่ มาตรา 32(2) กำหนดไว้เกี่ยวกับเรื่องห้ามมิให้ใช้เครื่องมือ ส่วนมาตรา 32(4) กำหนดวิธีใช้เครื่องมือทำการประมง ประกาศกระทรวงเกษตรฉบับดังกล่าวที่ออกมาห้ามกระทำการใด ๆ ที่ใช้เครื่องมือโดยเรือยนต์ทุกชนิดทำการประมงภายในระยะ 3,000 เมตรนับจากขอบน้ำตามแนวชายฝั่งขณะทำการประมง เป็นเรื่องกำหนดระยะทางห้ามทำการประมง จึงเป็นคนละเรื่องกัน เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งตามคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายว่า "ขณะทำการประมง" ตามที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงเกษตรฉบับนั้น จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ชอบที่ศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์เสีย พิเคราะห์แล้ว ประกาศกระทรวงเกษตรตามฟ้องมีจริงหรือไม่ และมีข้อความอย่างไร เป็นข้อเท็จจริง คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดด้วยวาจาตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 19 และมาตรา 20ประกอบด้วยพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 มาตรา 3 ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ว่า จำเลยบังอาจใช้เครื่องมืออวนรุนทำการประมงภายในเขตระยะ 3,000 เมตรนับจากขอบน้ำตามแนวชายฝั่ง โดยไม่รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดเขตห้ามใช้เครื่องมืออวนลากและอวนรุนที่ใช้กับเรือยนต์ทำการประมง ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2515 จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหาไม่ต่อสู้คดี ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ว่า ประกาศกระทรวงเกษตรดังกล่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 32(2) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 ก็ดี มีข้อความว่าห้ามกระทำการใด ๆที่ใช้เครื่องมือโดยเรือยนต์ทุกชนิดทำการประมงภายในระยะ 3,000 เมตรนับจากขอบน้ำตามแนวชายฝั่งขณะทำการประมง ก็ดี หามีฝ่ายใดยกขึ้นว่าในศาลชั้นต้นไม่ จึงไม่ปรากฏในสำนวน จำเลยที่ 1 เพิ่งยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ แล้วกล่าวอ้างว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยประการต่าง ๆจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้แล้วพิพากษายืน ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์จำเลยที่ 1 ยกขึ้นฎีกามาอีก ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาของจำเลยที่ 1

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th