ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดิน 3 แปลง จากจำเลย ต่อมาจำเลยฟ้องขับไล่โจทก์และทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยจำเลยยอมให้โจทก์ผ่อนชำระราคาที่ดินเดือนละ 1,500 บาท นับแต่วันที่ 1 มกราคม2531 เป็นต้นไป โจทก์ผ่อนชำระถึงเดือนธันวาคม 2531 จำเลยบอกให้โจทก์งดผ่อนชำระชั่วคราว เพราะจำเลยถูกเจ้าหนี้ฟ้องและเจ้าหนี้ยึดทรัพย์สินของจำเลยรวมทั้งที่ดิน 3 แปลง ดังกล่าวด้วยโจทก์ก็ปฏิบัติตาม และเคยสอบถามจำเลยหลายครั้งว่าจะให้ผ่อนชำระต่อเมื่อใด จำเลยบอกให้รอไปก่อน แต่แล้วจำเลยกลับขอให้ศาลบังคับคดีแก่โจทก์ โดยอ้างว่าโจทก์ไม่ยอมผ่อนชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ขอให้บังคับจำเลยถอนคำขอบังคับคดีหมายเลขแดงที่ 979/2530 ของศาลชั้นต้น และยอมให้โจทก์ผ่อนชำระราคาที่ดินตามข้อตกลงเดิมต่อไป หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามขอให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยโจทก์รับว่าค้างชำระค่าเช่าซื้อที่ดินจำเลย 386,168 บาทและจะผ่อนชำระเดือนละ 1,500 บาท โดยจะชำระให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 80 เดือน แต่โจทก์ผ่อนชำระเพียง 6 เดือน เป็นเงิน9,000 บาท จำเลยไม่เคยบอกให้โจทก์งดผ่อนชำระชั่วคราว แต่จำเลยทวงถามให้โจทก์ชำระหลายครั้ง โจทก์ขอผัดผ่อน จำเลยจึงขอให้ศาลชั้นต้นบังคับคดี ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง

โจทก์ อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้จำเลยถอนการบังคับคดีในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 979/2530 ของศาลชั้นต้น หากไม่ถอนให้ถือเอาคำพิพากษานี้แทนการแสดงเจตนาของจำเลย และให้ยอมให้โจทก์ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อที่ดินตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีดังกล่าวต่อไป ส่วนที่ขอให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลยหากจำเลยไม่ยอมรับชำระค่าเช่าซื้อนั้นเป็นคำขอที่ไม่อาจบังคับได้จึงให้ยก

จำเลย ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "เห็นว่า การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับข้อตกลงสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 979/2530 ของศาลชั้นต้นข้อโต้แย้งของโจทก์ในคดีนี้จึงเป็นข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีดังกล่าว โจทก์ชอบที่จะต้องขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีเดิมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 7(2), 302 วรรคแรก โจทก์จึงมาฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ให้การต่อสู้ไว้และมิได้ยกขึ้นมาในฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)"

พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้องโจทก์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th