ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลย และมีคำสั่งให้โจทก์มีสิทธิซื้อนาของผู้ให้เช่าก่อนบุคคลอื่นตามกฎหมาย
จำเลยให้การว่า ที่จำเลยวินิจฉัยว่าโจทก์หมดสิทธิซื้อนาคืนเป็นการวินิจฉัยถูกต้องตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ. 2524 แล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่า หนังสือขอขยายเวลาการชำระเงินค่าซื้อนาที่โจทก์มีไปถึงประธาน คชก.ตำบลบึงคอไห เมื่อวันที่24 มีนาคม 2531 ตามเอกสารหมาย จ.8 เป็นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ คชก.ตำบลบึงคอไห เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2531 ตามที่โจทก์ฎีกาหรือไม่ เห็นว่า ตามเอกสารหมาย จ.8 มีข้อความว่าข้าพเจ้านายสอาด พรมกลิ่น ได้รับหนังสือของ คชก.ตำบลเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2531 ให้ข้าพเจ้านำเงินไปวางมัดจำนากับนางโซม ปิ่นทอง มีกำหนด 30 วัน ตั้งแต่ได้รับหนังสือนั้นข้าพเจ้ายังไม่พร้อมที่จะนำเงินไปวางมัดจำ จึงขอขยายเวลาออกไปอีก1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2531 จนถึงวันที่ 24 มีนาคม 2532จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ด้วย ข้อความในหนังสือดังกล่าวเป็นเพียงการขอขยายเวลาการชำระหนี้ค่าซื้อนาตามที่คชก.ตำบลบึงคอไหได้วินิจฉัยไว้เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2531ไม่ใช่เป็นเรื่องคัดค้านคำวินิจฉัยของ คชก.ตำบลบึงคอไหหนังสือดังกล่าวจึงมิใช่เป็นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ คชก.ตำบลบึงคอไหต่อ คชก.จังหวัดปทุมธานี ตามพระราชบัญญัติการเช่าที่เดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 56 วรรคหนึ่ง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์คำวินิจฉัยของ คชก.ตำบลบึงคอไหซึ่งวินิจฉัยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2531 ให้โจทก์นำเงินไปทำสัญญาซื้อนากับนางโซมจำนวน 1,000,000 บาท ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ออกหนังสือ ส่วนที่เหลือให้ชำระราคาทั้งหมดภายใน60 วัน คำวินิจฉัยของ คชก.ตำบลบึงคอไหจึงถึงที่สุดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว มาตรา 56 วรรคสอง เมื่อโจทก์ไม่ได้ไปทำสัญญาซื้อนากับนางโซมภายในกำหนดเวลาดังกล่าวโจทก์จึงหมดสิทธิที่จะซื้อนานั้นตามพระราชบัญญัติดังกล่าวมาตรา 53 วรรคสาม
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








