ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

สำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์สร้างตึกต่อมาโจทก์บอกเลิกสัญญาเพราะจำเลยผิดสัญญา ขอให้จำเลยชำระค่าจ้างค่าสัมภาระ และค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา

สำนวนที่ 2 จำเลยฟ้องโจทก์และผู้ค้ำประกันว่าโจทก์ผิดสัญญาจ้างทำของขอให้ใช้ค่าเสียหายและค่าปรับ

โจทก์ให้การว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา

ผู้ค้ำประกันให้การว่า จำเลยต่ออายุสัญญาให้โจทก์โดยผู้ค้ำประกันไม่ยินยอม

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ชำระเงิน3,683,346 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่จำเลย ให้ผู้ค้ำประกันร่วมรับผิดกับโจทก์จำนวน 1,122,687.80 บาท พร้อมดอกเบี้ย

โจทก์และผู้ค้ำประกันอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์และผู้ค้ำประกันฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "หนังสือสัญญาค้ำประกันที่ธนาคารทำไว้ต่อกรมควบคุมโรคติดต่อ ข้อ 2. ระบุว่า "ข้าพเจ้ายอมรับรู้และยินยอมด้วยในกรณีที กรมควบคุมโรคติดต่อได้ยินยอมให้ผัดหรือผ่อนเวลา หรือผ่อนผันการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่บริษัทจันทนิมิตก่อสร้าง จำกัด โดยเพียงแต่กรมควบคุมโรคติดต่อแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบโดยไม่ชักช้าเท่านั้น" เช่นนี้ จึงเป็นการที่ธนาคารยินยอมด้วยล่วงหน้าในการที่หากจะมีการผ่อนผันเวลาหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่บริษัทก่อสร้าง ฉะนั้นจึงถือว่าการที่กรมควบคุมโรคติดต่อให้ผ่อนผันเวลาหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่บริษัทก่อสร้างได้รับความยินยอมจากธนาคารผู้ค้ำประกันแล้ว จึงไม่เข้าข่ายที่ธนาคารจะหลุดพันความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700 แม้จะมีข้อความตอนท้ายของสัญญาข้อ 2. ระบุว่า "โดยเพียงแต่กรมควบคุมโรคติดต่อแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบโดยไม่ชัดช้าเท่านั้น" และปรากฏว่ากรมควบคุมโรคติดต่อมิได้แจ้งให้ธนาคารทราบถึงการผ่อนผันเวลาหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามสัญญาในเรื่องนี้ก็ตามข้อความตอนท้ายดังกล่าวแล้วมิใช่สาระสำคัญอันเป็นเงื่อนไขว่าหากมิได้ปฏิบัติตามแล้วจะทำให้ข้อความตอนต้นไม่เป็นผล เพราะข้อความตอนต้นของสัญญาข้อ 2. นี้ เป็นการแสดงเจตนาของธนาคารที่มีผลเป็นการยินยอมด้วยในการผ่อนผันเวลาหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามสัญญาไปแล้วมิใช่ข้อสัญญาว่าจะปฏิบัติการชำระหนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง หากเป็นเพียงคำขอร้องหรือเสนอแนะเท่านั้น ธนาคารจึงไม่หลุดพันความรับผิด"

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 4,700,654 บาทพร้อมกับดอกเบี้ยแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th