ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้สั่งและนำแผ่นเพลทที่เคลือบด้วยสารไวแสงสำหรับใช้ในการทำแม่พิมพ์จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาในราชอาณาจักร โดยยื่นใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าว่าสินค้ามีราคา 141,979.11 บาท เป็นสินค้าพิกัดประเภทที่ 37.01 ข.อัตราอากรร้อยละ 40 ลดเหลือร้อยละ 10 คิดเป็นอากรขาเข้า14,197.91 บาท ภาษีการค้า 2,940.03 บาท และภาษีบำรุงเทศบาล 294 บาทรวมเป็นเงิน 17,431.94 บาท ต่อมาพนักงานของโจทก์ตรวจสอบพบว่าสินค้าดังกล่าวมิใช่ฟิล์มสำหรับทำแม่พิมพ์ อันเป็นสินค้าที่ได้รับการลดหย่อนอัตราอากรข้างต้นตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.4/2525 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2515 แต่เป็นวัตถุอื่นที่เป็นแผ่นซึ่งไวต่อแสงและยังมิได้ถ่าย โจทก์จึงประเมินเรียกเก็บอากรขาเข้าในอัตราร้อยละ 40 คิดเป็นเงินค่าอากร 72,486.81บาท ภาษีการค้า 50,123.36 ภาษีบำรุงเทศบาล 5,041.15 บาท เมื่อนำภาษีอากรที่จำเลยชำระให้ก่อนแล้วมาหักออก จำเลยคงชำระขาดไป คืออากรขาเข้า 58,288.80 บาท ภาษีการค้า 47,183.33 บาท ภาษีบำรุงเทศบาล 4,718.33 บาท โจทก์แจ้งให้จำเลยทราบและให้นำเงินที่ขาดมาชำระ จำเลยมิได้ชำระในกำหนด จำเลยจึงต้องรับผิดชำระค่าภาษีอากรที่ค้างรวมทั้งเงินเพิ่มเป็น 51,901.66 บาทรวมเป็นเงิน 162,092.12 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าภาษีอากรที่ค้างรวมทั้งเงินเพิ่มดังกล่าว กับให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากเงินค่าอากรที่ค้างจำนวน 110,190 บาท นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า สินค้าดังกล่าวเป็นแผ่นฟิล์มเคลือบสารไวแสงให้ทำแม่พิมพ์สำหรับพิมพ์หนังสือจัดอยู่ในพิกัดอัตราศุลกากรประเภทที่ 37.01 ข. ซึ่งได้รับการลดอัตราอากรจากร้อยละ 40ลงเหลือร้อยละ 10 เป็นเงินค่าภาษีทั้งสิ้น 6,431.94 บาท จำเลยชำระเงินดังกล่าวไปครบถ้วนและถูกต้องแล้ว เจ้าหน้าที่ของโจทก์ก็ได้ตรวจปล่อยสินค้านั้นแล้ว ถ้าเป็นเรื่องคำนวณตัวเลขเว้นอากรคลาดเคลื่อน ซึ่งมีอายุความเรียกร้อง 2 ปี คดีโจทก์ก็ขาดอายุความ

ศาลภาษีอากรกลางวินิจฉัยว่า สินค้ารายพิพาทเป็นฟิล์มสำหรับใช้ในการทำแม่พิมพ์ จัดอยู่ในพิกัดประเภทที่ 37.01 ข. จำเลยได้รับการลดอัตราอากรตามประกาศกระทรวงการคลัง โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าภาษีอากรเพิ่มรวมทั้งเบี้ยปรับ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรฟังข้อเท็จจริงว่า สินค้ารายพิพาทเป็นแผ่นโลหะอะลูมิเนียมเคลือบด้วยสารไวแสง มีกรรมวิธีในการทำภาพให้ปรากฏในแผ่นโลหะอะลูมิเนียมดังกล่าวโดยจะต้องใช้ฟิล์มโพสซิติปทาบกับแผ่นเพลท แล้วปิดด้วยกระจกอัดแน่นโดยใช้วิธีดูดลมเพื่อให้ฟิล์มสนิทแน่นกับแผ่นเพลทจากนั้นก็จะฉายแสงอุลตราไวโอเลตผ่านฟิล์ม แล้วนำแผ่นเพลทไปล้างด้วยสารละลายก็จะปรากฏภาพ จากนั้นจึงนำไปเป็นแม่พิมพ์ แผ่นโลหะอะลูมิเนียมเคลือบด้วยสารไวแสงดังกล่าวจึงเป็นแผ่นเพลทสำหรับใช้ทำแม่พิมพ์ มิใช่ฟิล์มสำหรับใช้ในการทำแม่พิมพ์ ตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภทที่ 37.01 ข. จึงไม่อยู่ในข่ายที่จะได้รับการลดหย่อนค่าอากร ตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.4/2515 ลงวันที่7 กรกฎาคม 2515 ซึ่งลดหย่อนอากรขาเข้าจากอัตราร้อยละ 40 ลงเหลือร้อยละ 10 ดังนั้นจำเลยจึงต้องชำระอากรขาเข้าสำหรับสินค้ารายพิพาทร้อยละ 40 โดยไม่มีการลดหย่อนและต้องชำระอากรในส่วนที่ขาด คืออากรขาเข้า 58,288.80 บาท ภาษีการค้า 47,183.33 บาทภาษีบำรุงเทศบาล 4,718.33 บาท และเงินเพิ่ม 51,901.66 บาท รวมเป็นเงิน 162,092.12 บาทแก่โจทก์

พิพากษากลับให้จำเลยชำระภาษีอากรจำนวนดังกล่าว คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th