ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกำหนดค่าทดแทนให้โจทก์ในกรณีที่ที่ดินของโจทก์ถูกเวนคืนโดยไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าทดแทนที่โจทก์ควรได้รับ จำเลยให้การว่า การกำหนดค่าทดแทนเหมาะสมและเป็นธรรมแล้ว
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและจำหน่ายคดี ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าในวันนัด ทนายโจทก์ป่วย ได้ร้องขอเลื่อนคดีแล้วเมื่อเวลา 9.25นาฬิกา โดยเข้าใจว่าศาลนัด เวลา 9.30 นาฬิกา ขอให้เพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดี
ศาลชั้นต้นงดไต่สวน และมีคำสั่งยกคำร้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนและมีคำสั่ง จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ตามคำร้องของโจทก์อ้างว่านายสาโรชเสมียนทนายไปถึงศาลและยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีต่อเจ้าพนักงานศาลเมื่อเวลา 9.25 นาฬิกา ตรงกับเวลาที่ศาลออกนั่งพิจารณา ซึ่งถ้าหากเป็นจริงตามคำร้องของโจทก์ กรณียังไม่ถนัดที่จะถือได้ว่าโจทก์มิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาลเสียก่อนลงมือสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 197 วรรคสอง ประกอบกับการขอเลื่อนคดีของโจทก์นั้นอ้างว่าทนายโจทก์ป่วย ซึ่งหากฟังได้ว่าทนายโจทก์ป่วยจริงในวันดังกล่าวก็เป็นเหตุที่ศาลชอบที่จะต้องให้เลื่อนการพิจารณาคดีไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดการไต่สวนคำร้องของโจทก์ จึงไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยที่ 1ที่ 2 ฟังไม่ขึ้น"
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา








