ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า เดิมโจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยร่วมต่อมาจำเลยรับโอนมาทำงานด้วย และเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมขอให้บังคับจำเลยและจำเลยร่วมร่วมกันชำระค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าจ้างค้างจ่ายและค่าเสียหาย จำเลยให้การว่าโจทก์ทั้งสองเป็นลูกจ้างของจำเลยร่วมส่วนจำเลยร่วมให้การว่า โจทก์ทั้งสองไปทำงานให้แก่จำเลยโดยละทิ้งหน้าที่เกินกว่า 3 วัน จำเลยร่วมได้เลิกจ้างโจทก์ไปแล้ว ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าค่าจ้างค้างจ่ายแก่โจทก์ทั้งสอง คำขออื่นให้ยกและให้ยกฟ้องจำเลยร่วม จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า 'ข้อที่จำเลยอุทธรณ์อีกว่าโจทก์ตั้งประเด็นในคำฟ้องว่าบริษัทจำเลยรับโอนโจทก์ทั้งสองเข้าทำงานต่อจากบริษัทจำเลยร่วมในเดือนมกราคม 2528 ขณะที่นายประเสริฐ ให้โจทก์ทั้งสองไปทำงานที่บ้านนายประเสริฐที่ถนนสุขุมวิท ซอย 49 หาได้ตั้งประเด็นว่าบริษัทจำเลยได้รับโอนโจทก์ทั้งสองเข้าทำงานต่อจากบริษัทจำเลยร่วมเมื่อบริษัทจำเลยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้วเมื่อวันที่ 13 มีนาคม2528 ไม่ การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า บริษัทจำเลยรับโอนโจทก์ทั้งสองจากบริษัทจำเลยร่วมเข้าทำงานเมื่อจำเลยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้วจึงเป็นการวินิจฉัยนอกเหนือคำฟ้องคำให้การ และนอกประเด็น เป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ชอบนั้น พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางได้กำหนดประเด็นไว้ว่า โจทก์ทั้งสองเป็นลูกจ้างของจำเลยหรือของจำเลยร่วมแล้วได้วินิจฉัยว่าโจทก์ทั้งสองเป็นลูกจ้างของบริษัทจำเลย การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยด้วยว่าบริษัทจำเลยรับโอนโจทก์ทั้งสองเข้าทำงานต่อจากบริษัทจำเลยร่วมหลังจากที่บริษัทจำเลยได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว จึงเป็นการวินิจฉัยอยู่ในประเด็นที่ศาลแรงงานกลางกำหนดไว้แล้วดังกล่าวข้างต้น หาใช่นอกประเด็นดังที่จำเลยอุทธรณ์ไม่

ส่วนข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่า การที่ศาลแรงงานกลางมิได้วินิจฉัยปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์เกี่ยวกับเรื่องค่าเสียหายและกรณีเช่นว่านี้ศาลแรงงานกลางจะมีอำนาจพิจารณาหรือไม่โดยอ้างว่ามิได้กำหนดประเด็นไว้ตั้งแต่ต้นเนื่องจากประเด็นเพิ่งจะเกิดขึ้นจากคำให้การเพิ่มเติมและคู่ความก็มิได้ขอให้กำหนดประเด็นเพิ่มเติม ต้องถือว่าคู่ความไม่ติดใจที่จะให้ศาลแรงงานกลางกำหนดประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติม เป็นการวินิจฉัยที่ไม่ชอบ เพราะเมื่อประเด็นได้เกิดขึ้นแล้วศาลแรงงานกลางก็จะต้องวินิจฉัยไปตามประเด็นที่เกิดขึ้น อีกทั้งความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ที่โจทก์ทั้งสองเรียกร้องค่าเสียหายมาก็เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่โจทก์ทั้งสองและจำเลยสิ้นสุดความเป็นลูกจ้างนายจ้างกันแล้ว จึงถือไม่ได้ว่าเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสัญญาจ้างแรงงาน ไม่อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลางที่จะพิจารณาพิพากษาได้นั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าแม้ศาลแรงงานกลางจะฟังว่า การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสองเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมก็ตาม แต่ศาลแรงงานกลางก็มิได้กำหนดให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมให้แก่โจทก์ทั้งสองตามที่เรียกร้อง โดยเห็นว่าค่าชดเชยที่โจทก์ทั้งสองได้รับนั้นเพียงพอกับความเสียหายของโจทก์ทั้งสองแล้ว ซึ่งโจทก์ทั้งสองก็มิได้อุทธรณ์ในปัญหาเรื่องค่าเสียหายนี้แต่ประการใด ข้ออุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวแม้จะเป็นข้อกฎหมาย แต่ก็เป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองสำนวนฟังไม่ขึ้น'

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา ADMIN

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th