ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามแจ้งความเท็จต่อผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นการดูหมิ่น และเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136, 137, 326, 328ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136, 137, 326, 328, 83 และ 91อันเป็นคดีที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี แม้โจทก์จะยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัด ก็จะต้องนำวิธีพิจารณาความอาญาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 คดีนี้จึงเป็นคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ได้กล่าวถ้อยคำในทำนองต่อว่าเจ้าพนักงานตำรวจจริง หรือมิฉะนั้นก็เป็นถ้อยคำที่ทำให้จำเลยที่ 1เข้าใจโดยสุจริตว่าโจทก์ได้กล่าวเช่นนั้น เท่ากับเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำโดยขาดเจตนา จึงมีผลทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิดในทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ดังนั้นการวินิจฉัยปัญหาที่ว่าการกระทำของโจทก์จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่อันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 หรือไม่จึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของโจทก์ ข้อกฎหมายดังกล่าวจึงเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

สำหรับฎีกาของโจทก์ที่ว่า เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามทางไต่สวนมูลฟ้องว่า จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันทำหนังสือซึ่งมีข้อความอันเป็นเท็จร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ศาลก็ชอบที่จะมีคำสั่งให้ประทับฟ้องของโจทก์ มิใช่วินิจฉัยไปเลยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดเป็นทำนองว่าศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ถูกต้องนั้น เห็นว่าในการไต่สวนนั้นแม้จะได้ความว่าจำเลยได้กระทำการตามฟ้อง แต่เมื่อศาลเห็นว่า การกระทำของจำเลยดังกล่าวไม่เป็นความผิดไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยขาดเจตนาหรือมีกฎหมายบัญญัติว่า การกระทำนั้นไม่เป็นความผิด ศาลก็ชอบที่จะทำการวินิจฉัย และพิพากษายกฟ้องไปได้เลยไม่จำเป็นจะต้องประทับฟ้องไว้แล้วไปพิพากษายกฟ้องในภายหลัง การดำเนินกระบวนพิจารณาดังกล่าวจึงชอบแล้ว

ฎีกาข้อสุดท้ายของโจทก์ที่ว่า โจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดศาลอุทธรณ์จะยกพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ขึ้นอ้างว่าคดีของโจทก์ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ข้อเท็จจริงจึงเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่าได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 เพราะฉะนั้นเมื่อคดีของโจทก์เป็นคดีที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี จึงต้องนำวิธีพิจารณาความอาญาตามบทบัญญัติว่าด้วยการจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับดังที่ศาลฎีกาได้ยกขึ้นวินิจฉัยไว้ในตอนต้น คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ในเรื่องนี้จึงชอบแล้ว"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th