ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากจำเลยไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำพิพากษาโจทก์จึงขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีและยึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์ดังกล่าวไว้แล้ว ต่อมาวันที่ 2 มกราคม 2533 ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยตามคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 1068/2532 หมายเลขแดงที่ 1012/2532 ของศาลชั้นต้น แต่จำเลยไม่มีเงินชำระ ขอให้ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องเฉลี่ยทรัพย์ในคดีนี้

ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องแล้วมีคำสั่งว่า ตามคำร้องไม่ปรากฏว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นอันเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินของจำเลย จึงให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งตามรูปคดี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มาตรา 290 เป็นบทบัญญัติให้โอกาสแก่บุคคลภายนอกคดีมีสิทธิยื่นคำร้องเข้ามาในการบังคับคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้และทรัพย์นั้นถูกเจ้าพนักงานบังคับคดียึดหรืออายัดไว้แล้วได้ โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลภายนอกนั้นต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยในคดีเรื่องอื่น และต้องยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลที่ออกหมายบังคับให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของจำเลยไว้แล้ว เพื่อให้ผู้ร้องมีสิทธิเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินของจำเลยดังกล่าว เหตุที่กฎหมายให้โอกาสแก่ผู้ร้องเช่นนี้เพราะผู้ร้องจะขอให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินดังกล่าวของจำเลยซ้ำอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 290 วรรคแรก ฉะนั้น คำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องจึงต้องบรรยายข้อสำคัญตามมาตรา 290 วรรคแรกโดยย่อให้ได้ความว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยในคดีเรื่องอื่น และขอให้ศาลอนุญาตให้ตนเข้าเฉลี่ยทรัพย์ในคดีที่มีการออกหมายบังคับคดีนี้ ซึ่งตามคำร้องของผู้ร้องดังกล่าวก็ปรากฏว่าได้บรรยายไว้แล้วว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขใด ของศาลใด และขอให้ศาลคดีนี้อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์คดีนี้ จึงเป็นคำร้องที่ศาลชั้นต้นชอบจะรับไว้พิจารณาต่อไปได้ สำหรับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา 290 วรรคสี่นั้น เป็นกำหนดเวลาที่ผู้ร้องจะต้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เข้ามาในทันทีภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจะต้องพิจารณาว่าผู้ร้องได้ยื่นเข้ามาในกำหนดเวลาหรือไม่ ถ้าปรากฏว่ายื่นเข้ามาเกินกำหนดเวลาศาลก็ชอบที่จะยกคำร้องนั้นเสีย จึงไม่ใช่ข้อที่ผู้ร้องต้องบรรยายมาในคำร้อง และสำหรับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา 290 วรรคสองซึ่งบัญญัติว่า "ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตามคำขอเช่นว่านี้เว้นแต่ศาลเห็นว่าผู้ยื่นคำขอไม่สามารถเอาชำระได้จากทรัพย์สินอื่น ๆของลูกหนี้ตามคำพิพากษา" นั้น เห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องระบุว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา แต่จำเลยไม่มีเงินจะชำระหนี้ให้ผู้ร้องได้ผู้ร้องจึงมาร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในคดีนี้ ซึ่งพอแปลได้ว่าผู้ร้องไม่สามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของจำเลย ถือได้ว่าผู้ร้องอ้างในคำร้องแล้วว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา 290 วรรคสอง ความส่วนนี้จึงเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่าในคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องในศาลชั้นต้นแล้ว ศาลอุทธรณ์ยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งตามรูปคดีจึงชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th