ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43, 157

จำเลยให้การปฎิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าตามวันเวลาเกิดเหตุ รถยนต์บรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 81-1551ชลบุรี ซึ่งมีนายอำนวย พวงกุหลาบ บุตรของโจทก์เป็นผู้ขับถูกรถไฟสายกรุงเทพ-พัทยา ซึ่งมีจำเลยเป็นผู้ขับชน เป็นเหตุให้นายอำนวยถึงแก่ความตาย มีปัญหาที่ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยเป็นประการแรกก่อนว่า เหตุคดีนี้เกิดจากความประมาทของฝ่ายใดโจทก์มีนายทองมูล สุขขี และนายเฮียง สนิทกุล เป็นประจักษ์พยานเบิกความทำนองเดียวกันว่า ในวันเวลาเกิดเหตุนายทองมูลและนายเฮียงขับรถยนต์ปิกอัพและรถยนต์บรรทุกสิบล้อมาหยุดรออยู่ที่ถนนก่อนถึงทางรถไฟประมาณ 50 เมตร เพื่อให้นายอำนวยขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อแล่นข้ามทางรถไฟมาก่อน เพราะถนนที่นายอำนวยขับรถมานั้นแคบรถแล่นสวนกันไม่ได้ และเห็นรถไฟที่จำเลยขับแล่นมาด้วยความเร็วชนรถที่นายอำนวยขับ โดยนายทองมูลเบิกความในชั้นไต่ส่วนมูลฟ้องว่านายอำนวยขับรถข้ามทางรถไฟโดยมิได้หยุดรถก่อน แต่กลับเบิกความในชั้นพิจารณาว่าไม่ได้สังเกตว่านายอำนวยจะหยุดรถก่อนข้ามทางรถไฟหรือไม่ ส่วนนายเฮียงเบิกความว่านายอำนวยขับรถแล่นมาเรื่อย ๆ โดยไม่ได้หยุดรถก่อนที่จะข้ามทางรถไฟ คำของพยานโจทก์ทั้งสองปากนี้เจือสมกับคำเบิกความของพยานฝ่ายจำเลย อันมีจำเลย นายบุญสพ หน่อแก้วช่างเครื่องรถไฟขบวนเกิดเหตุ และนายถาวร แหก้าน ราษฎรบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเบิกความว่า รถยนต์บรรทุกสิบล้อที่นายอำนวยขับมามิได้หยุดก่อนข้ามทางรถไฟ หากได้เร่งเครื่องรถพยายามแล่นผ่านไปจึงฟังได้ว่านายอำนวยมิได้หยุดรถที่ตนขับมาก่อนข้ามทางรถไฟ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 63 ที่บัญญัติว่า "ในทางเดินรถตอนใดที่มีรถไฟผ่านไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ ถ้าทางรถไฟนั้นไม่มีสัญญาณระวังรถไฟหรือสิ่งปิดกั้น ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถห่างจากทางรถไฟในระยะไม่น้อยกว่าห้าเมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะขับรถผ่านไปได้" ซึ่งผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาทตาม มาตรา 148 นับได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นนายอำนวยเป็นฝ่ายประมาทหาใช่จำเลยไม่นายอำนวยจึงไม่เป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย โจทก์ฟ้องคดีโดยเป็นบุพการีฟ้องแทนนายอำนวยบุตรของตนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5 (2) เมื่อบุตรของตนไม่เป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) แล้วโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องด้วย ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th