สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3832/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3831 - 3832/2525

ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ม. ,

แม้ระเบียบข้อบังคับของนายจ้างจะกำหนดให้นายจ้างมีสิทธิที่จะหักเงินบำเหน็จลงตามจำนวนค่าชดเชยที่ต้องจ่ายแก่ลูกจ้าง แต่ไม่ปรากฏว่านายจ้างใช้สิทธิดังกล่าว คงปรากฏแต่เพียงว่านายจ้างจ่ายเงินให้ลูกจ้างในลักษณะเป็นเงินบำเหน็จ ถือไม่ได้ว่านายจ้างได้จ่ายเงินค่าชดเชยรวมไปด้วยแล้ว นายจ้างจึงต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสองสำนวนซึ่งเป็นลูกจ้างประจำเพราะเหตุครบเกษียณอายุโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยและดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยให้การว่าเมื่อโจทก์ทั้งสองครบเกษียณอายุ จำเลยได้จ่ายเงินบำเหน็จและค่าชดเชยให้โจทก์ทั้งสองไปแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยอีก ขอให้ยกฟ้อง

วันนัดพิจารณาคู่ความแถลงรับกันว่า จำเลยได้ออกระเบียบเกี่ยวกับแผนสวัสดิการเรียกว่าแผนบำเหน็จและมรณะสงเคราะห์ใช้บังคับ โจทก์ทั้งสองสมัครเข้าแผนดังกล่าว เมื่อโจทก์ครบเกษียณอายุจำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ที่ 1 จำนวน 315,320 บาท และให้โจทก์ที่ 2 จำนวน 509,387 บาทแล้ว

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยและดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสอง

จำเลยทั้งสองสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า มีปัญหาตามที่จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยได้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้แก่โจทก์ เงินจำนวนนี้รวมและคลุมถึงค่าชดเชยอยู่ด้วยหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว ตามแผนบำเหน็จและมรณะสงเคราะห์ข้อ 13 มีใจความว่า ในกรณีที่พนักงานมีสิทธิได้รับประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากการครบเกษียณอายุ การเลิกจ้าง การว่างงานหรือการออมทรัพย์ บริษัทมีสิทธิที่จะลดผลประโยชน์ที่จะจ่ายตามแผนนี้ลงเพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับประโยชน์ต่าง ๆ ที่พนักงานได้รับ เห็นว่าตามแผนบำเหน็จและมรณะสงเคราะห์ดังกล่าว บริษัทจำเลยมีสิทธิที่จะลดผลประโยชน์หรือบำเหน็จที่จะจ่ายให้พนักงานของบริษัทเท่าจำนวนที่บริษัทจำเลยมีหน้าที่ต้องจ่ายเมื่อพนักงานครบเกษียณอายุ การเลิกจ้าง การว่างงาน หรือการออมทรัพย์ ค่าชดเชยเป็นเงินที่กฎหมายบังคับให้นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อมีการเลิกจ้าง แม้จะฟังว่าบริษัทจำเลยมีสิทธิที่จะหักเงินที่บริษัทจำเลยได้จ่ายเป็นค่าชดเชยแก่พนักงานอันเป็นเงินที่จ่ายเพราะการเลิกจ้างออกจากเงินบำเหน็จที่พนักงานของบริษัทจำเลยมีสิทธิได้รับดังจำเลยอุทธรณ์ก็ตาม แต่ไม่ปรากฏหลักฐานซึ่งแสดงว่าจำเลยได้ใช้สิทธิลดเงินบำเหน็จลงหักเป็นค่าชดเชย คงปรากฏแต่เพียงว่าจำเลยจ่ายให้โจทก์ทั้งสองในลักษณะเป็นเงินบำเหน็จเท่านั้นเอง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้จ่ายเงินค่าชดเชยรวมไปด้วยแล้ว ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินค่าชดเชยแก่โจทก์ทั้งสองนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายอารีย์ สินธุกุล จำเลย - บริษัทเอสโซ่แสตนดาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด

ชื่อองค์คณะ ขจร หะวานนท์ สมบูรณ์ บุญภินนท์ ไพศาล สว่างเนตร

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE