สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3833/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3833/2525

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 295 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 30, 163, 164, 218

โจทก์ร่วมเข้ามาดำเนินคดีแก่จำเลยโดยอาศัยสิทธิตามฟ้องของพนักงานอัยการ จึงไม่มีอำนาจขอแก้และเพิ่มเติมฟ้องให้นอกเหนือไปจากฟ้องของพนักงานอัยการ หากศาลชั้นต้นสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องส่วนที่โจทก์ร่วมขอแก้และเพิ่มเติมฟ้องไว้ก็มีอำนาจสั่งงดเสียได้

เมื่อศาลมิได้อนุญาตให้แก้และเพิ่มเติมฟ้องตามคำร้องของโจทก์ร่วม จึงลงโทษจำเลยตามบทมาตราที่ขอแก้และเพิ่มเติมฟ้องนั้นไม่ได้

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลย 1 เดือนปรับ 500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา218

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้จานกระเบื้องเป็นอาวุธตีทำร้ายผู้เสียหาย 1 ทีแล้วกัดใบหู 1 ที เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295

จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้เสียหายเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมแล้ว โจทก์ร่วมขอแก้และเพิ่มเติมฟ้องโดยแก้ฐานความผิดจากทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจเป็นทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายสาหัสและขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 295, 297(3)(4) ศาลชั้นต้นสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องในส่วนที่โจทก์ร่วมขอแก้และเพิ่มเติมฟ้อง จำเลยจึงถอนคำให้การเดิมและให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นสั่งงดไต่สวนมูลฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ลงโทษจำคุกและปรับ โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้

โจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ร่วมฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าการที่ศาลชั้นต้นสั่งไต่สวนมูลฟ้องในส่วนที่โจทก์ร่วมขอแก้และเพิ่มเติมฟ้องไว้แล้ว จะสั่งงดได้หรือไม่ เห็นว่าโจทก์ร่วมเข้ามาดำเนินคดีแก่จำเลยก็โดยอาศัยสิทธิตามฟ้องของพนักงานอัยการที่มีอยู่เดิม จึงไม่มีอำนาจขอแก้และเพิ่มเติมฟ้องให้นอกเหนือไปจากฟ้องของพนักงานอัยการตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1370/2522 เมื่อโจทก์ร่วมไม่มีอำนาจขอแก้และเพิ่มเติมฟ้องแล้ว ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจสั่งงดไต่สวนมูลฟ้องในส่วนนี้ได้ เท่ากับฟ้องไม่มีคำขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(3)(4) จึงลงโทษจำเลยตามมาตรา 297(4) ดังที่โจทก์ร่วมฎีกาไม่ได้

คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลย 1 เดือนปรับ 500 บาทโทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 1 ปีโจทก์ร่วมฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษ จำเลยเป็นการฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดปทุมธานี จำเลย - นายเวก เพ่งพิศ จำเลย - โจทก์ร่วม จำเลย - นายหยด เรี่ยวแรง

ชื่อองค์คณะ บุญส่ง คล้ายแก้ว ปรีชา พานิชวงศ์ ดำรง แจ่มสุธี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE