ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกทำละเมิดต่อโจทก์ ขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 298,844 บาท ให้แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น เฉพาะเกี่ยวกับจำเลยที่ 1และที่ 3 ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จำเลยที่ 1 และที่ 3ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ปัญหาที่ขึ้นมาสู่ศาลฎีกามีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 3 หรือไม่ เห็นว่าแม้โจทก์จะฟ้อง"สาธรบริดจ์ จอยเวนเจอร์" โดยนายเอก กรรณสูต เป็นจำเลยที่ 2ให้รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ฐานกระทำละเมิดตามฟ้องต่อโจทก์ และทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่า "สาธรบริดจ์ จอยเวนเจอร์"มีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายก็ตาม แต่โจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 กับบริษัทดราก๊าจ เอต ทราโวพับบลิกส์ จำกัด และบริษัทอิมเทรชาเจนเนอรัล ดีคอนสดรัคเซิน อีตัลวี จำกัด ได้ไปจดทะเบียนการค้าสำหรับงานก่อสร้างสะพานตามฟ้องไว้กับกรมสรรพากรว่า"สาธรบริดจ์ จอยเวนเจอร์" โดยมีนายเอก กรรณสูต เป็นผู้มีอำนาจทำการแทน และโจทก์นำสืบฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กับบริษัทดังกล่าวได้ร่วมกันจดทะเบียนการค้าต่อกรมสรรพากรโดยใช้ชื่อร่วมกันว่า"สาธรบริดจ์ จอยเวนเจอร์" โดยมีนายเอก กรรณสูต เป็นผู้ดำเนินการในการก่อสร้างสะพานตามฟ้อง จากข้อเท็จจริงดังกล่าวมาแล้วย่อมเห็นได้ว่า กิจการ "สาธรบริดจ์ จอยเวนเจอร์" ก็คือห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลซึ่งจำเลยที่ 1 กับบริษัทในต่างประเทศอีกสองบริษัทร่วมกันกระทำในประเทศไทยนั่นเอง เมื่อการที่มิได้แสดงหรือติดตั้งเครื่องหมายหรือสัญญาณเพื่อให้ทราบว่าเป็นเขตก่อสร้างเป็นเหตุให้รถยนต์บรรทุกของโจทก์ตกลงไปในหลุมที่"สาธรบริดจ์ จอยเวนเจอร์" ขุดไว้ อันเป็นการละเมิดตามฟ้อง เกิดขึ้นในกิจการที่เป็นธรรมดาของ "สาธรบริดจ์ จอยเวนเจอร์" จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้ที่เกิดขึ้นจากการละเมิดนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1050 โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 1 ได้ ทั้งการที่จำเลยที่ 3 รับประกันภัยค้ำจุน"สาธรบริดจ์ จอยเวนเจอร์" สัญญาประกันภัยก็ผูกพันจำเลยที่ 1 ด้วยเมื่อจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชอบต่อวินาศภัยที่เกิดขึ้นตามฟ้องโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 3 ให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ได้ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 3 ฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th