สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3869/2563

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3868 - 3869/2563

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 132 (1), 174 (2)

ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ไม่นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ผู้ร้องภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดจึงถือว่าผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2) ซึ่งศาลอุทธรณ์มีอำนาจจำหน่ายคดีออกจากสารบบความได้ตามมาตรา 132 (1) ประกอบมาตรา 246 แต่มาตรา 132 ไม่ใช่บทบัญญัติเด็ดขาดว่าศาลจะต้องจำหน่ายคดีเสมอไป เพียงแต่ให้ศาลใช้ดุลพินิจว่าจะสั่งจำหน่ายคดีหรือไม่ก็ได้ โดยคำนึงถึงเหตุผลอันสมควรและความยุติธรรม

เมื่อปรากฏว่าขณะที่ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ยื่นอุทธรณ์ ได้เสียค่าขึ้นศาลเป็นเงิน 200,000 บาท 37,482 บาท 95,162 บาท และ 35,162 บาท ชี้ให้เห็นว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ประสงค์ที่จะต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เมื่อเปรียบเทียบจำนวนเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ดังกล่าวกับค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคำคู่ความให้ผู้ร้องซึ่งเป็นเงินเพียง 500 บาท แล้ว ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคำคู่ความจึงเป็นเงินจำนวนเพียงเล็กน้อย ตามพฤติการณ์ดังกล่าว แม้ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 จะทิ้งอุทธรณ์ แต่ศาลฎีกาเห็นว่ากรณียังไม่สมควรจำหน่ายคดีของผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ทั้งนี้เพื่อให้คู่ความได้ว่ากล่าวกันในเนื้อหาแห่งคดีกันต่อไป

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยให้เรียกผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 7 ในสำนวนแรกว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 7 และให้เรียกผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 2 ในสำนวนหลังว่า ผู้คัดค้านที่ 1 และที่ 3

คดีสืบเนื่องมาจากผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สิน 27 รายการ พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน ผู้คัดค้านทั้งเจ็ดยื่นคำคัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์สิน เอกสารหมาย ร.40 ทั้ง 25 รายการ พร้อมดอกผล และตามบัญชีทรัพย์สินเอกสารหมาย ร.74 ทั้ง 2 รายการ พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 51 วรรคหนึ่ง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และให้ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่ผู้ร้องภายใน 7 วัน ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ไม่ได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายในกำหนด

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 มิได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ตามคำสั่งศาลถือว่าทิ้งอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2)

ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ คืนค่าธรรมเนียมการส่งหมายชั้นอุทธรณ์ที่วางไว้ให้ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์นอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ

ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ว่า การที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้จำหน่ายคดีผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันว่า รับอุทธรณ์ สำเนาให้โจทก์ (ที่ถูก ผู้ร้อง) แก้ ปิดได้ ให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 (ที่ถูก ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4) นำส่งภายใน 7 วัน ต่อมาวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 นางสาวอมรรัตน์ เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม รายงานศาลชั้นต้นว่า คู่ความที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้วางเงินค่านำส่งคำคู่ความ ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 เป็นผู้จัดการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ผู้ร้องภายในกำหนด 7 วัน ซึ่งศาลชั้นต้นมีอำนาจที่จะสั่งได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 70 วรรคท้าย ทั้งกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็เป็นเวลาที่สมควร การที่ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดจึงถือว่าผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ทิ้งฟ้องอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2) ซึ่งศาลอุทธรณ์มีอำนาจจำหน่ายคดีจากสารบบความได้ตามมาตรา 132 (1) ประกอบมาตรา 246 ส่วนที่ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 กล่าวอ้างมาในฎีกาว่า เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งเสมียนทนายความว่า ไม่ต้องวางเงินค่านำหมายในวันนี้ ศาลอาจสั่งให้ส่งหรือไม่ส่งก็ได้ รอให้ศาลสั่งก่อนค่อยมาวางเงินค่านำหมายในภายหลัง ให้จดเบอร์โทรศัพท์ไปแล้วโทรศัพท์มาถามคำสั่ง ต่อมาเสมียนทนายความโทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ศาลได้ความว่า รับอุทธรณ์แล้ว เรียบร้อยไม่มีอะไร ไม่ได้สั่งอะไร ทำให้เสมียนทนายความและทนายความผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 เชื่อโดยสุจริตว่าการยื่นอุทธรณ์เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วไม่ต้องดำเนินการสิ่งใดอีก ไม่ต้องนำหมาย รอการพิจารณาและฟังผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เท่านั้น แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความดังกล่าวก็ตาม แต่ก็หาทำให้ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ไม่ต้องตรวจดูคำสั่งของศาลชั้นต้นอีกไม่ อย่างไรก็ตามแม้ถือว่าผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ทิ้งอุทธรณ์ แต่มาตรา 132 ที่ให้อำนาจศาลที่จะจำหน่ายคดีจากสารบบความนั้นไม่ใช่บทบัญญัติเด็ดขาดว่าศาลต้องจำหน่ายคดีเสมอไป เพียงแต่ให้ศาลใช้ดุลพินิจว่าจะสั่งจำหน่ายคดีหรือไม่ก็ได้ โดยคำนึงถึงเหตุผลอันสมควรและความยุติธรรม สำหรับกรณีของผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 นี้ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า ขณะที่ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ยื่นอุทธรณ์นั้น ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ได้เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เป็นเงิน 200,000 บาท 37,482 บาท 95,162 บาท และ 35,162 บาท ชี้ให้เห็นว่าผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ประสงค์ที่จะต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เมื่อเปรียบเทียบจำนวนเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ดังกล่าวกับค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคำคู่ความให้ผู้ร้องซึ่งเป็นเงินเพียงจำนวน 500 บาท แล้ว ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคำคู่ความจึงเป็นเงินจำนวนเพียงเล็กน้อย ตามพฤติการณ์แห่งคดีดังกล่าว แม้ผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 จะทิ้งอุทธรณ์ แต่ศาลฎีกาเห็นว่ากรณียังไม่สมควรจำหน่ายคดีของผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ทั้งนี้เพื่อให้คู่ความได้ว่ากล่าวกันในเนื้อหาแห่งคดีกันต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 4 ฟังขึ้น

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่ผู้ร้องแล้วดำเนินการต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา ปค.8-9/2563

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ ผู้ร้อง - พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้คัดค้าน - นาย ส. กับพวก

ชื่อองค์คณะ เทพ อิงคสิทธิ์ ชาติชาย โฆษิตวัฒนฤกษ์ พิสุทธิ์ ศรีขจร

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลแพ่ง - นางสาวจิราพร คกาทอง ศาลอุทธรณ์ - นายธีรวัฒน์ ไตรวารี

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE