คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ADMIN 3874/2529
ประมวลกฎหมายอาญา ม. 288, 72 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 218
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288จำคุก15ปีศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288,72จำคุก3ปีเป็นการแก้ทั้งบทกฎหมายและกำหนดโทษที่ลงโทษจำเลยเป็นการแก้ไขมากคู่ความไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218 จำเลยกับผู้ตายเป็นสามีภรรยากันมาประมาณ7ปีมีบุตรด้วยกัน3คนและมีปากเสียงทะเลาะกันเสมอๆขณะก่อนเกิดเหตุจำเลยกับผู้ตายก็มีปากเสียงทะเลาะกันอีกการที่ผู้ตายบ่นว่ากล่าวหาจำเลยพาชายชู้มานอนที่เตียงนอนและไล่จำเลยออกจากบ้านทั้งขู่ว่าหากจำเลยไม่ไปจากบ้านจะฆ่าจำเลยนั้นก็เป็นเรื่องสามีภรรยาเป็นปากเสียงทะเลาะกันตามปกติที่เคยเป็นมาจะถือว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหาได้ไม่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายจึงมิใช่เหตุบันดาลโทสะ.
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288และให้ริบอาวุธปืนกับปลอกกระสุนปืนของกลาง จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุกมีกำหนด 15 ปี และริบของกลาง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 72 จำคุกมีกำหนด 3 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยยื่นคำแก้ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปีโจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง นั้น เห็นว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้จำคุกมีกำหนด15 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 72 จำคุกมีกำหนด 3 ปี เป็นการแก้ทั้งบทกฎหมายและกำหนดโทษที่ลงโทษจำเลย เป็นการแก้ไขมาก คู่ความไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ส่วนปัญหาว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายโดยบันดาลโทสะ หรือไม่นั้น เห็นว่า จำเลยกับผู้ตายเป็นสามีภรรยากันมาประมาณ 7 ปี มีบุตรด้วยกัน 3 คน และมีปากเสียงทะเลาะกันเสมอ ๆ ในวันเกิดเหตุก่อนจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย จำเลยกับผู้ตายก็มีปากเสียงทะเลาะกันอีกเช่นเคยการที่ผู้ตายบ่นว่าจำเลยกล่าวหาว่าจำเลยพาชายชู้มานอนที่เตียงนอนและไล่จำเลยออกจากบ้าน ทั้งขู่ว่าหากจำเลยไม่ไปจากบ้านจะฆ่าจำเลยนั้น ก็เป็นเรื่องสามีภริยาเป็นปากเสียงทะเลาะกันตามปกติที่เคยเป็นมาจะถือว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหาได้ไม่ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายจึงมิใช่เหตุเพราะบันดาลโทสะ หากแต่เป็นเพราะเหตุจำเลยโกรธเคืองผู้ตายที่ผู้ตายด่าว่าจำเลย พิพากษาแก้เป็นว่าให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา ADMIN
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ จังหวัด เพชรบูรณ์ จำเลย - นาง สมบูรณ์ หรือ สุภาวดี จียอง
ชื่อองค์คณะ ไพรัช วงศ์วัฒนะ ชูเชิด รักตะบุตร์ วิฑูรย์ ตั้งตรงจิตต์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan