สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3892/2529

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ADMIN 3892/2529

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 83, 90, 364, 365, 392

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญคดีได้ความว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปขับไล่ให้ผู้เสียหายออกไปเสียจากขนำของผู้เสียหายครั้นผู้เสียหายขัดขืนจำเลยจึงใช้ปืนที่ติดตัวไปยิงขู่จนผู้เสียหายตกใจกลัวออกไปจากขนำการกระทำของจำเลยมีเจตนาขู่เข็ญเพื่อขับไล่ผู้เสียหายให้ออกไปจากขนำเป็นข้อสำคัญจึงเป็นความผิดกรรมเดียวอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท.

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกที่หลบหนีอีก 3 คน มีอาวุธปืนติดตัวได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในขนำอันเป็นเคหสถานใช้เป็นที่อยู่อาศัยของนางบ้วย ชูนุ่นผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปแล้วร่วมกันใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงขู่เข็ญขับไล่ให้ผู้เสียหายลงจากขนำ ถ้าไม่ไปจะยิงให้ถึงแก่ความตาย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความตกใจกลัว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364, 365, 83 และ 392 จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364, 365, 83 และ 392 ฐานบุกรุกเคหสถานโดยมีอาวุธปืน จำคุก 2 ปี ฐานทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวจำคุก 15 วัน รวมจำคุกคนละ2 ปี 15 วัน จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2) ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ให้จำคุกคนละ 2 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ศาลฎีกาวินิจฉัยแล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยทั้งสองและพวกอีก 3 คนมีอาวุธปืนยาวทุกคนนั่งเรือหางยาวไปจอดที่หน้าขนำของผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 และพวก 2 คน ขู่บังคับให้ผู้เสียหายลงไปจากขนำ หากไม่ลงจะยิง ผู้เสียหายไม่ยอมลง จำเลยที่ 1 กับพวกได้ยิงปืนขู่เข้าไปในขนำ ผู้เสียหายตกใจกลัวได้พาบุตรและนางเสวียน คงแก้ว ลงจากขนำและเข้าไปหลบอยู่ในป่าเสม็ดหลังขนำดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยทั้งสองและพวกบุกรุกเข้าไปขับไล่ให้ผู้เสียหายออกไปเสียจากขนำของผู้เสียหาย ครั้นผู้เสียหายขัดขืน จำเลยที่ 1 และพวกจึงใช้ปืนที่ติดตัวไปยิงขู่จนผู้เสียหายตกใจกลัวออกไปจากขนำ การกระทำของจำเลยทั้งสองและพวกมีเจตนาขู่เข็ญเพื่อขับไล่ผู้เสียหายให้ออกไปจากขนำเป็นข้อสำคัญ จึงเป็นความผิดกรรมเดียวอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทมิใช่หลายกรรมต่างกัน ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยทั้งสอง พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา ADMIN

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ ประจำศาล จังหวัดปากพนัง จำเลย - นาย พยงค์ หรือ เหวา รอดสุขา กับพวก

ชื่อองค์คณะ สุชาติ จิวะชาติ เสรี แสงศิลป์ อำนวย เปล่งวิทยา

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE