ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2534 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยที่ 1 กับพวกอีกหลายคนซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้องฝ่ายหนึ่งกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกอีกหลายคนซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง อีกฝ่ายหนึ่ง ได้สมัครใจทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันโดยจำเลยที่ 1 กับพวกร่วมกันใช้มีดปลายแหลมและท่อนไม้เป็นอาวุธแทงฟันและตี กับใช้กำลังกายชกต่อยเตะทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 2และที่ 3 กับพวกหลายครั้ง ส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกก็ได้ร่วมกันใช้เก้าอี้นั่งทำด้วยเหล็กและเหล็กแป๊บเป็นอาวุธตี และใช้กำลังกายชกต่อยเตะทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 1 กับพวกหลายครั้งเช่นกันเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ต่างได้รับอันตรายสาหัสต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาและจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน เหตุเกิดที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิตกรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, 83

จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8) ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 3 ปีจำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องโจทก์มิได้บรรยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจำนวนบุคคลที่กระทำความผิดให้ชัดเจนว่า พวกของจำเลยแต่ละฝ่ายนั้นมีใครบ้างจำนวนเท่าใด ใครทำร้ายใคร ด้วยอะไร เป็นฟ้องเคลือบคลุมนั้น เห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 กับพวกอีกหลายคนซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกอีกหลายคนซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง อีกฝ่ายหนึ่ง ได้สมัครใจทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 กับพวกร่วมกันใช้มีดปลายแหลมและท่อนไม้เป็นอาวุธแทงฟันและตี กับใช้กำลังกายชกต่อยเตะทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกหลายครั้ง ส่วนจำเลยที่ 2 และที่ 3กับพวกก็ได้ร่วมกันใช้เก้าอี้นั่งทำด้วยเหล็กและเหล็กแป๊บเป็นอาวุธตี และใช้กำลังกายชกต่อยเตะทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 1 กับพวกหลายครั้งเช่นกัน เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ต่างได้รับอันตรายสาหัส ตามฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องจำเลยสองฝ่ายต่างสมัครใจทำร้ายซึ่งกันและกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายมีพวกตั้งแต่สองคนขึ้นไปได้ร่วมกันเป็นตัวการกระทำความผิดในการทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งจนเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ได้รับอันตรายสาหัส ฟ้องของโจทก์จึงได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ที่เกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยแต่ละฝ่ายเข้าใจข้อหาได้ดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ฟ้องโจทก์หาเคลือบคลุมไม่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยและกำหนดโทษมานั้นเหมาะสมแล้วไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th