ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2527 จำเลยนำเช็คลงวันที่ 25 ตุลาคม 2527สั่งจ่ายเงินจำนวน 240,000 บาท มาขายลดเช็คให้แก่โจทก์ โดยจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คฉบับดังกล่าว และได้ตกลงกับโจทก์ว่าหากเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ จำเลยยินยอมรับผิดชดใช้เงินตามเช็คให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17 ต่อปีนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจนกว่าจะชำระเสร็จ ต่อมาเมื่อเช็คถึงกำหนดสั่งจ่ายโจทก์ได้นำไปเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 22ตุลาคม 2528 โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยไม่ชำระ จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญาขายลดเช็คที่จะต้องชำระเงินตามเช็คให้โจทก์พร้อมดอกเบี้ย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 549,186 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17 ต่อปี ในต้นเงิน 240,000บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินให้เหตุผลว่า เช็คพ้นกำหนดการจ่ายเงิน แสดงว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาของกฎหมายในการเรียกเก็บเงินตามเช็คและใช้สิทธิเรียกร้อง โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องหนี้จากจำเลยและไม่มีอำนาจฟ้อง คดีขาดอายุความแล้วเพราะขัดต่อมาตรา 990 และมาตรา 1002ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างการพิจารณา ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้วมีคำสั่งให้งดการสืบพยานโจทก์พยานจำเลย

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 549,186 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17 ต่อปี ในต้นเงิน 240,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าคำร้องขอแก้ไขคำให้การของจำเลยเป็นเรื่องเกี่ยวกับโจทก์ไม่มีอำนาจเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อันเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนนั้น พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นนัดชี้สองสถานวันที่ 5 ตุลาคม 2536 ตามคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยลงวันที่ 20กันยายน 2536 มีใจความว่าจำเลยขอแก้ไขคำให้การของจำเลยเกี่ยวกับเรื่องที่โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นสถาบันการเงิน มีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้ตามพระราชบัญญัติดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน พ.ศ. 2523 แสดงว่าโจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยเช่นเดียวกับธนาคารซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการรับจำนองอสังหาริมทรัพย์ และโจทก์จำเลยมีเจตนาแท้จริงที่จะจำนองที่ดินเป็นประกันหนี้เงิน 240,000 บาท โจทก์ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลยเกินกว่า 5 ปี การคิดดอกเบี้ยของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 745 ดังนี้ เห็นว่า คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยดังกล่าวเป็นการยกข้อต่อสู้ว่าหนี้ดอกเบี้ยตามฟ้องขาดอายุความแล้ว ซึ่งปัญหาเรื่องอายุความในทางแพ่งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องดังกล่าวของจำเลยจึงชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th