ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


ได้ความว่า จำเลยได้หลอกลวงบิดามารดาหรือผู้ปกครองเอาเด็กไปเพื่อหากำไรโดยเด็กเต็มใจไปกับจำเลย และบิดามารดาหรือผู้ปกครองก็ยินยอมให้เด็กไป เพราะหลงเชื่อจำเลยหลอกลวงโจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ตามมาตรา ๒๗๓, ๒๗๔, ๒๗๕, พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๗๔ มาตรา ๖
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา ๒๗๓, ๒๗๔, มาตรา ๖ จำคุกคนละ ๑ ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีผิดตามมาตรา ๒๗๕ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๗๔ มาตรา ๖ กำหนดอัตราโทษเท่าศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดของจำเลยต้องด้วยมาตรา ๒๗๕ และศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามมาตรา นี้ได้ดังเหตุผลที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้ในคำพิพากษาฎีกาที่ ๓๒๙/๒๔๘๓ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









