สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3981/2529

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ADMIN 3981/2529

ประมวลกฎหมายอาญา ม. 278 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 39 (2)

บันทึกข้อตกลงไม่มีข้อความใดแสดงว่าฝ่ายผู้เสียหายตกลงสละสิทธิในการดำเนินคดีอาญากับจำเลยในทันทีแต่กลับมีเงื่อนไขที่จำเลยจะต้องปฏิบัติต่อฝ่ายผู้เสียหายเสียก่อนกล่าวคือจำเลยต้องชำระเงินให้แก่ผู้เสียหายตามข้อตกลงเมื่อปรากฏว่าจำเลยไม่ชำระเงินให้ฝ่ายผู้เสียหายข้อตกลงดังกล่าวก็ไม่มีผลผูกพันผู้เสียหายให้เลิกคดีอาญากรณีจึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการยอมความกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(2)ที่จะทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไป.

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5)พ.ศ. 2525 มาตรา 3 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5)พ.ศ. 2525 มาตรา 3 จำคุก 1 ปี บันทึกการตกลงชดใช้ค่าเสียหายของจำเลยตามเอกสาร จ.1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 เดือน จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเชื่อว่า จำเลยได้กระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายจริงตามฟ้องแต่เห็นว่าผู้เสียหายกับจำเลยได้ยอมความกันแล้วตามบันทึกเอกสารหมาย จ.1สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยได้กระทำอนาจารแก่ผู้เสียหายจริงตามฟ้อง คดีคงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ข้อตกลงตามบันทึกเอกสารหมาย จ.1 เป็นการยอมความกัน อันมีผลให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)หรือไม่ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ข้อตกลงตามบันทึกเอกสารหมาย จ.1 มีใจความว่าจำเลยยอมรับผิดในการกระทำของตน นางมะเฟือง แสงทอง มารดาผู้เสียหายเรียกค่าทำขวัญหรือค่าล้างอายเป็นเงิน 5,000 บาท จำเลยยินยอมให้ตามคำเรียร้องของมารดาผู้เสียหายและตกลงจะชำระเงินให้ภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2526ไม่มีข้อความใดที่แสดงว่าฝ่ายผู้เสียหายตกลงสละสิทธิในการดำเนินคดีอาญากับจำเลยในทันที แต่กลับมีเงื่อนไขที่จำเลยจะต้องปฏิบัติต่อฝ่ายผู้เสียหายก่อน กล่าวคือ จำเลยต้องชำระเงินค่าทำขวัญหรือค่าล้างอายให้แก่ฝ่ายผู้เสียหายตามข้อตกลงและนางมะเฟือง แสงทอง มารดาผู้เสียหายเบิกความว่า หลังจากตกลงกันตามบันทึกเอกสารหมาย จ.1 แล้ว จำเลยพูดว่าจับมืออย่างเดียวจะเอา 5,000 บาทจำเลยไม่มีเงินให้และได้ต่อรองลงเหลือ 3,000 บาท มารดาผู้เสียหายก็ตกลงและถ้าจำเลยชำระเงินให้ 3,000 บาท ก็ไม่ติดใจเอาเรื่อง ย่อมแสดงให้เห็นชัดว่าถ้าจำเลยไม่ชำระเงินให้ตามที่ตกลง ฝ่ายผู้เสียหายก็ยังติดใจดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยอยู่ เมื่อปรากฏว่าจำเลยไม่ชำระเงินค่าเสียหายให้ฝ่ายผู้เสียหายข้อตกลงดังกล่าวก็ไม่มีผลผูกพันผู้เสียหายให้เลิกคดีอาญา กรณีจึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการยอมความกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ที่จะทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไป ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น พิพาทกลับ ให้บังคับคดีลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา ADMIN

ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการ จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ จำเลย - นาย วัฒนา หนูน้อย

ชื่อองค์คณะ ไพจิตร วิเศษโกสิน ไพรัช วงศ์วัฒนะ สมบูรณ์ ฤกษ์สำราญ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE