ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335, 91, 32 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ริบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหามีและพาอาวุธปืนส่วนข้อหาลักทรัพย์ จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(12) วรรคหนึ่ง พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคหนึ่ง, 72 วรรคสองเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ฐานลักทรัพย์ของผู้มีอาชีพกสิกรรม บรรดาที่เป็นผลิตภัณฑ์ลงโทษจำคุก 1 ปี ฐานมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียน จำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ จำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพฐานมีและพาอาวุธปืนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกฐานมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนคงจำคุก 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืนไม่มีทะเบียนคงจำคุก 3 เดือนรวมจำคุกจำเลย 1 ปี 9 เดือน

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องข้อหาลักทรัพย์ ส่วนข้อหามีและพาอาวุธปืนติดตัว ขอให้ลงโทษสถานเบา

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องข้อหาลักทรัพย์นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้นำแผ่นยางพาราของผู้เสียหายไปขายให้นายนิคมตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 22 พฤษภาคม อันเป็นเวลากระชั้นชิดกับเวลาเกิดเหตุลักทรัพย์ เป็นการบ่งชี้ว่าจำเลยทราบว่าทรัพย์ดังกล่าวได้มาโดยการกระทำความผิด พฤติการณ์ของจำเลยฟังได้ว่าจำเลยช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งแผ่นยางพารารวม 17 แผ่นของผู้เสียหายโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์อันเป็นความผิดฐานรับของโจรแม้ข้อเท็จจริงดังกล่าวที่ปรากฏในการพิจารณาจะต่างกันระหว่างการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจรก็ไม่ถือว่าต่างกันในข้อสาระสำคัญ และจำเลยมิได้หลงต่อสู้ทั้งข้อเท็จจริงดังกล่าวศาลล่างทั้งสองก็ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วเพียงแต่ปรับบทฐานความผิดต่างกันเท่านั้น ศาลฎีกามีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานรับของโจร ตามข้อเท็จจริงก็ได้ความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสามไม่ถือว่าพิพากษาเกินคำฟ้อง

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก จำคุก 6 เดือนเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว รวมจำคุกจำเลย 1 ปี 3 เดือนให้ริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th