ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันกล่าวคือ จำเลยมีกัญชาแห้งอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5จำนวน 1 ปีบกับอีก 4 ถุง หนักรวม 1,205.45 กรัม ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ทั้งนี้ โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตและฝ่าฝืนต่อกฎหมายหลังจากที่จำเลยได้กระทำความผิดดังกล่าวแล้วจำเลยได้จำหน่ายขายกัญชาอันเป็นส่วนหนึ่งของยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายดังกล่าวให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อจำนวน 4 ห่อหนัก 5.45 กรัม ราคา 20 บาท โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยได้พร้อมด้วยกัญชาจำนวน 1 ปีบ หนัก 1,200 กรัม ซึ่งจำเลยมีไว้เพื่อจำหน่าย และเงินสดจำนวน 20 บาท ซึ่งจำเลยได้มาจากการจำหน่ายกัญชา และยังยึดได้กัญชาจำนวน 4 ห่อ หนัก 5.45 กรัม จากสายลับที่ได้ล่อซื้อกัญชาจากจำเลยเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 26, 75, 76,102 ริบเฉพาะกัญชาของกลาง นอกนั้นสั่งคืนเจ้าของ

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 26, 75, 76, 102เรียงกระทงลงโทษฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 2 ปีปรับ 20,000 บาท ฐานจำหน่ายกัญชาจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาทรวมจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้กำหนด 2 ปี กัญชาของกลางริบ ของกลางนอกจากนี้คืนเจ้าของไม่ชำระค่าปรับกักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ไม่รอการลงโทษจำเลย

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่งประกอบด้วย มาตรา 76 วรรคสอง และผิดตามมาตรา 26 วรรคหนึ่งประกอบด้วยมาตรา 75 วรรคหนึ่ง อีกกรรมหนึ่ง ไม่ปรับและไม่รอการลงโทษให้จำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาข้อแรกว่าศาลอุทธรณ์ภาค 3ปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 26 วรรคหนึ่ง ไม่ถูกต้อง เพราะกัญชาของกลางมีปริมาณไม่ถึงสิบกิโลกรัมนั้น เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง เป็นบทบัญญัติที่กำหนดการกระทำอันเป็นความผิด คือการผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 4 หรือในประเภท 5 ทั้งนี้โดยไม่ต้องพิจารณาว่ายาเสพติดให้โทษจะมีปริมาณเท่าใด ส่วนความในวรรคสองของบทมาตราดังกล่าวที่ให้ถือว่าการมียาเสพติดให้โทษในประเภท 4 หรือในประเภท 5 ไว้ในครอบครองมีปริมาณตั้งแต่สิบกิโลกรัมขึ้นไป เป็นการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้นเป็นเพียงบทสันนิษฐานเด็ดขาดมิให้ผู้กระทำความผิดโต้เถียงว่ามีไว้เพื่อการอื่นที่มิใช่มีไว้เพื่อจำหน่ายได้เท่านั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ปรับบทลงโทษจำเลยมาจึงชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th