ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันลักตุ้มหูทองคำจำนวน 1 คู่ราคา 1,700 บาท แหวนทองเค (แหวนเพชรรัสเซีย)จำนวน 1 วงหมวกพลาสติกจำนวน 1 ใบ รวมราคา 2,710 บาทของนางสาววัลลภา เลิศไพรวัลย์ ผู้เสียหายไปหรือมิฉะนั้นรับเอาหมวกพลาสติก จำนวน 1 ใบ โดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 357,83 และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ตุ้มหูทองคำ แหวนทองเค(เพชรรัสเซีย) รวมเป็นเงิน 2,700 บาท แก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นข้อเท็จจริงว่า จำเลยลักหมวกพลาสติก 1 ใบพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(11) วรรคหนึ่ง จำคุก 1 ปีจำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษตามมาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 8 เดือน ทรัพย์ที่ลักมีราคาเพียงเล็กน้อย ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี คำขออื่นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยมีความผิดฐานลักหมวกพลาสติก สำหรับใส่อาบน้ำของผุ้เสียหายหรือไม่ โจทก์มีนางสาววัลลภา เลิศไพรวัลย์ผู้เสียหายเป็นพยานเบิกความว่า มิได้ให้หมวกดังกล่าวแก่จำเลย ร้อยตำรวจโทหทัย เกษสุวรรณ์ พนักงานสอบสวนพยานโจทก์อีกปากหนึ่งเบิกความว่า ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพว่าแอบเอาหมวกพลาสติกสำหรับใส่อาบน้ำของผู้เสียหายไปจริง ปรากฏตามบันทึกคำให้การของจำเลยเอกสารหมาย จ.7 แต่ร้อยตำรวจโทหทัยก็เบิกความตอบคำถามค้านของทนายจำเลยว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2533 ผู้เสียหายแจ้งแก่พยานว่า จำเลยลักทรัพย์ของผู้เสียหายเพียง 2 รายการคือ ตุ้มหูทองคำและแหวนเพชรรัสเซีย เท่านั้น เมื่อผู้เสียหายนำพยานไปตรวจค้นที่บ้านญาติของจำเลยไม่พบทรัพย์ทั้งสองสิ่งคงพบแต่หมวกพลาสติกสำหรับใส่อาบน้ำอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าของจำเลย ผู้เสียหายก็ไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลยเกี่ยวกับหมวกดังกล่าว พยานจึงไม่ได้สอบถามจำเลยว่าได้หมวกมาอย่างไรเห็นว่าหากผู้เสียหายมิได้ให้หมวกพลาสติกสำหรับใส่อาบน้ำแก่ จำเลยจริงดังที่จำเลยนำสืบกล่าวแก้แล้ว เมื่อผู้เสียหายพบหมวกดังกล่าวอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าของจำเลยในวันที่19 ธันวาคม 2533 ผู้เสียหายก็น่าจะแจ้งความดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหาลักทรัพย์หมวกพลาสติกสำหรับใส่อาบน้ำของผู้เสียหายและยืนยันให้ร้อยตำรวจโทหทัยยึดหมวกดังกล่าวมาเป็นของกลางเพื่อเอาผิดแก่จำเลยเสียตั้งแต่แรก การที่ผู้เสียหายไม่แจ้งความดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหาดังกล่าวในทันทีที่พบหมวกพลาสติกสำหรับใส่อาบน้ำนั้นอาจเป็นได้ว่าผู้เสียหายได้ให้หมวกดังกล่าวแก่จำเลยแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าผู้เสียหายยกหมวกดังกล่าวให้แก่จำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ และพิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th