ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


กรณีสืบเนื่องมาจากจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งมีคำพิพากษาตามยอม โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองคือที่ดินโฉนดเลขที่ 7967 เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องทำสัญญาซื้อที่ดินรายนี้จากจำเลยโดยชำระราคาบางส่วนแล้ว และเข้าครอบครองปลูกโรงเรือนเป็นที่อยู่อาศัย จึงขอชำระหนี้แทนจำเลย
ในวันนัดพร้อมโจทก์จำเลยและทนายผู้ร้องมาศาล ทนายผู้ร้องแถลงขอชำระหนี้แทนจำเลยภายใน 3 เดือน จำเลยคัดค้านว่าหากจะต้องรอต่อไปอีกก็จะทำให้จำเลยต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นขอให้สั่งขายทอดตลาด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ผู้ร้องทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลยมานานแล้ว แต่ยังชำระราคาไม่ครบถ้วนและจำเลยก็คัดค้านไม่ยอมให้ผู้ร้องชำระหนี้แทนเพราะจำเลยเสียหาย จึงให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ผู้ร้องจะมีส่วนได้เสียในอันที่จะชำระหนี้แทนจำเลยก็ตาม แต่หนี้ที่จำเลยจะต้องชำระแก่โจทก์เป็นหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งจำเลยจะต้องชำระให้โจทก์ภายใน 15 วัน นับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ หากผู้ร้องจะชำระหนี้ดังกล่าวแทนจำเลย ผู้ร้องก็จะต้องชำระหนี้ภายในกำหนดดังกล่าว เมื่อผู้ร้องมิได้ชำระหนี้ภายในกำหนดนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิขอให้บังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยมาขายทอดตลาดนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดชำระหนี้นั้นได้การที่ผู้ร้องขอชำระหนี้แทนจำเลยโดยขอผัดไปอีก 3 เดือน โดยโจทก์และจำเลยไม่ยินยอม จึงหาอาจกระทำได้ไม่
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








