ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกที่หลบหนีอีกสองคนร่วมกันตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรกลภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตทำการแปรรูปไม้สักเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้สักแปรรูปจำนวน 1,138 แผ่น/ชิ้น ปริมาตร3.19 ลูกบาศก์เมตร ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีเครื่องใช้ทำด้วยไม้สักเป็นรูปหน้าต่าง ประตู และโครงกระจกจำนวน 1,116 บาน/โครง ไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าในเขตควบคุมสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใด บรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้ามโดยจำเลยทั้งสองกับพวกมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่มีเหตุได้รับยกเว้นโทษตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 48, 53 ทวิ, 53 ตรี, 73, 73 ทวิ,74, 74 ทวิ, 74 จัตวา พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518มาตรา 7, 19, 21, 27, 28 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 8, 9 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 7)พ.ศ. 2525 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 ริบของกลางทั้งหมดกับสั่งจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมายด้วย

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 48, 53 ทวิ, 53 ตรี,73 วรรคสอง, 73 ทวิ, 74, 74 ทวิ ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 86 ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ลงโทษฐานสนับสนุนตั้งโรงงานแปรรูปไม้ จำคุกคนละ 6 เดือนฐานสนับสนุนมีสิ่งประดิษฐ์จำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน รวมสองกระทงจำคุกคนละ 1 ปี 12 เดือน ริบของกลาง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่คนงานวิ่งหลบหนีไปขณะที่เห็นเจ้าพนักงานมาที่เพิงซึ่งใช้เป็นโรงงานแปรรูปไม้นั้น แสดงว่าคนงานรู้ว่าโรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานที่ไม่ได้ตั้งขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมาย และรู้ว่าไม้สักแปรรูปที่ใช้ทำบานประตูหน้าต่างเป็นไม้ที่ไม่มีรอยตราของเจ้าพนักงานเป็นไม้แปรรูปที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นคนงานก็ต้องรู้เช่นเดียวกัน เมื่อจำเลยทั้งสองรู้ว่าโรงงานที่จำเลยทั้งสองทำงานเป็นโรงงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่จำเลยทั้งสองยังยินยอมทำงานเป็นลูกจ้างของเจ้าของโรงงาน เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าของโรงงานกระทำความผิดต่อกฎหมาย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น แต่เนื่องจากการกระทำของจำเลยเป็นเพียงให้การสนับสนุนแก่เจ้าของโรงงานในการกระทำผิด โดยจำเลยเป็นลูกจ้างของเจ้าของโรงงานดังกล่าวเท่านั้น จำเลยมิใช่เป็นผู้ลงมือกระทำความผิดเอง พฤติการณ์การกระทำผิดของจำเลยไม่ร้ายแรงเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดีอีกสักครั้งหนึ่ง โดยรอการลงโทษจำคุกให้จำเลย

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th