ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน5ร - 1246 กรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของรถยนต์โดยสารคันหมายเลขทะเบียน 11 - 6740 กรุงเทพมหานคร และเป็นนายจ้างจำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2533 จำเลยที่ 1ขับรถยนต์โดยสารคันดังกล่าวไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2แล่นไปตามถนนพหลโยธิน เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นทางสี่แยกมีสัญญาณไฟจราจร จำเลยที่ 1 ด้วยความประมาทอย่างร้ายแรงได้ขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง และฝ่าสัญญาณไฟแดงเข้าชนรถยนต์ของโจทก์ซึ่งมีจ่าอากาศเอกปรีชา ทิพย์มณฑา เป็นผู้ขับทำให้ได้รับความเสียหายหลายรายการคิดเป็นค่าเสียหาย 85,000 บาท จำเลยที่ 1 ยอมรับว่าเหตุที่เกิดเป็นเพราะความประมาทของจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสองยอมใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ แต่กลับเพิกเฉย ขอบังคับจำเลยทั้งสองให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายและดอกเบี้ยที่ค้างชำระเป็นเงิน 87,125 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 85,000 บาทนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนับพิจารณา

จำเลยที่ 2 ให้การว่า คำฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่มีข้อความอันใดที่แสดงให้เห็นว่า โจทก์ได้รับความเสียหายอย่างใดอะไรบ้างขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ขอให้เรียกบริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วม เนื่องจากเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุจากจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาต

จำเลยร่วมให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่ได้บรรยายว่าเสียหายอะไร เสียหายอย่างไร ทำให้จำเลยร่วมไม่สามารถต่อสู้คดีเกี่ยวกับค่าเสียหายของรถโจทก์ได้ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหาย85,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2533 จนกว่าจะชำระเสร็จ ดอกเบี้ยก่อนฟ้องต้องไม่เกิน 2,125 บาท

จำเลยร่วม อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

จำเลยร่วม ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยร่วมฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้บรรยายในฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ชนรถยนต์ของโจทก์ในส่วนใด รถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายตรงไหน อย่างไร ฟ้องโจทก์จึงเคลือบคลุมเห็นว่า เมื่อตามคำฟ้องโจทก์ได้บรรยายแล้วว่า จำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์โดยสารของจำเลยที่ 2 โดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเฉี่ยวชนรถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายรวมหลายรายการคิดเป็นเงิน85,000 บาท การที่จำเลยขับรถยนต์ชนรถยนต์ของโจทก์ในส่วนใด รถยนต์โจทก์จะได้รับความเสียหายตรงส่วนไหน บริเวณใดและได้รับความเสียหายอย่างไร เป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ว่าชั้นพิจารณา หาใช่ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาซึ่งจะต้องบรรยายมาให้คำฟ้องแต่อย่างใดไม่ ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th