โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายวันชัย ชูชัยเจริญกิจเป็นผู้ฟ้องคดีตามเอกสารหมายเลข 1 ท้ายฟ้อง จำเลยที่ 1เป็นนิติบุคคล จำเลยที่ 2 เป็นผู้เช่าตึกและที่ดินซึ่งเป็นทางพิพาทจากจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำละเมิดโจทก์ โดยปิดกั้นทางพิพาทขอให้บังคับจำเลยทั้งสองรื้อสิ่งกีดกั้นที่จำเลยก่อสร้างไว้ออก และให้จำเลยร่วมกันหรือแทนกันใช้ค่าเสียหายให้โจทก์วันละ 300 บาท

จำเลยที่ 1 ให้การว่า นายวันชัย ชูชัยเจริญกิจ จะได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีจากโจทก์จริงหรือไม่ จำเลยที่ 1 ไม่ทราบและไม่ขอรับรอง จำเลยที่ 1 อนุญาตให้จำเลยที่ 2 ก่อสร้างปิดกั้นทางพิพาทโดยชอบด้วยและไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์

จำเลยที่ 2 ให้การว่า มิได้ทำละเมิดตามที่โจทก์ฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาข้อแรกของโจทก์ว่านายวันชัย ชูชัยเจริญกิจ มีอำนาจ ฟ้องคดีนี้แทนโจทก์หรือไม่พิเคราะห์แล้ว โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายวันชัย ชูชัยเจริญกิจ เป็นผู้ฟ้องคดีนี้ตามเอกสารหมายเลข 1ท้ายฟ้อง จำเลยที่ 2 ไม่ได้ให้การต่อสู้ในเรื่องนี้ คงมีจำเลยที่ 1ให้การว่านายวันชัย ชูชัยเจริญกิจ จะได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้จากโจทก์จริงหรือไม่ จำเลยที่ 1 ไม่ทราบและไม่ขอรับรองศาลฎีกาเห็นว่า คำให้การของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวเป็นคำให้การที่ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าจำเลยปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสอง ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธคดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทที่จะต้องวินิจฉัยในเรื่องอำนาจฟ้องกรณีจึงต้องถือว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้นายวันชัย ชูชัยเจริญกิจฟ้องคดีนี้ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมายเลข 1 ท้ายฟ้องนายวันชัย ชูชัยเจริญกิจ จึงมีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ได้"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ