ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 91 ริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ(ที่ถูก 8 ทวิ วรรคหนึ่ง), 72 (ที่ถูก 72 วรรคหนึ่ง), 72 ทวิ(ที่ถูก 72 ทวิ วรรคสอง) เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง จำคุก 1 ปี ฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะ จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 6 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 9 เดือนริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า มีเหตุอันสมควรให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิจารณาพิพากษาคดีนี้ใหม่หรือไม่ ได้ความว่า หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมีนางอารีย์ อิ้งจะนิล ทนายความลงลายมือชื่อในช่องผู้อุทธรณ์ในฐานะทนายจำเลย แต่ไม่ปรากฏในสำนวนว่าจำเลยแต่งตั้งนางอารีย์เป็นทนายจำเลย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 เห็นว่า คำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยเป็นคำฟ้องอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ จึงพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย ศาลฎีกาเห็นว่านางอารีย์เคยเป็นผู้เรียงและพิมพ์คำให้การจำเลยและคำร้องประกอบการขอปล่อยชั่วคราวฉบับลงวันที่ 4 กันยายน 2540 ถือได้ว่าเคยทำหน้าที่ทนายจำเลยมาก่อน ทั้งเมื่อจำเลยยื่นคำฟ้องอุทธรณ์เป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นต้องตรวจคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยว่าควรจะรับส่งขึ้นไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 3 หรือไม่ ถ้าเห็นว่าไม่สมควรรับต้องจดเหตุผลไว้ในคำสั่งศาลนั้นโดยชัดเจน ทั้งนี้ ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 วรรคสอง เมื่อปรากฏว่า คำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยในคดีนี้ นางอารีย์ลงลายมือชื่อในช่องผู้อุทธรณ์ในฐานะทนายจำเลย โดยไม่ปรากฏว่ามีใบแต่งทนายความในสำนวนคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยจึงเป็นคำฟ้องอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยส่งขึ้นไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 3 ต้องถือว่าศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2) ประกอบมาตรา 225 อย่างไรก็ตาม บัดนี้ปรากฏว่าจำเลยได้แต่งตั้งนางอารีย์เป็นทนายจำเลยให้มีอำนาจอุทธรณ์และฎีกาแทนจำเลยก่อนยื่นฎีกาฉบับนี้ ศาลฎีกาจึงไม่จำต้องสั่งแก้ไขและถือว่าจำเลยยื่นคำฟ้องอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยชอบแล้ว และเห็นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิจารณาพิพากษาใหม่เพื่อให้เป็นไปตามลำดับชั้นศาล ฎีกาจำเลยฟังขึ้น"

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3พิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th