ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยที่ 1 เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อปี 2520 บิดาของจำเลยที่ 1 ยกที่ดินโฉนดเลขที่ 3799ให้แก่จำเลยที่ 1 เพื่อเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1โจทก์และจำเลยที่ 1 ได้อยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าวตลอดมา ต่อมาเมื่อปี 2523 ถึง 2525 และปี 2526 ถึง 2528 โจทก์เดินทางไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โจทก์ทราบว่าระหว่างที่โจทก์ทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ จำเลยที่ 1 นำที่ดินดังกล่าวไปขายฝากไว้แก่จำเลยที่ 2 เป็นเงิน 59,000 บาท โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ซึ่งเป็นคู่สมรสและจำเลยที่ 2 ทราบดีว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1เป็นสามีภริยากันและมีส่วนเป็นเจ้าของในที่ดินพิพาทร่วมกันการกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้เพิกถอนนิติกรรมการขายฝากระหว่างจำเลยทั้งสอง

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ

จำเลยที่ 2 ให้การว่า บิดาของจำเลยที่ 1 ยกที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 1 โดยเสน่หาและไม่ได้ระบุว่าเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ที่ดินพิพาทดังกล่าวจึงเป็นสินส่วนตัวของจำเลยที่ 1และจำเลยที่ 1 สามารถทำนิติกรรมขายฝากแก่จำเลยที่ 2 ได้โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากโจทก์ นอกจากนี้เมื่อปี 2525โจทก์เดินทางกลับจากต่างประเทศ แล้วมาขอกู้เงินจากจำเลยที่ 2และสามีเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปต่างประเทศอีก จำเลยที่ 2และสามีให้โจทก์กู้เงินจากนางสาวปทุมเมศ บุญยอด บุตรสาวของจำเลยที่ 2 เป็นเงิน 30,000 บาท ทั้งได้แจ้งให้โจทก์ทราบแล้วว่าจำเลยที่ 1 ได้นำที่ดินพิพาทมาขายฝากไว้แก่จำเลยที่ 2 ซึ่งโจทก์ก็มิได้โต้แย้งคัดค้าน โจทก์จึงทราบถึงการทำนิติกรรมขายฝากดังกล่าวตั้งแต่ปี 2525 แล้ว ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 จำเลยที่ 2 ถึงแก่กรรมศาลชั้นต้นอนุญาตให้นางปทุมเมศ เทียนนาวา บุตรของจำเลยที่ 2เข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยที่ 2 ผู้มรณะ

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงว่า ในปี 2525 เมื่อโจทก์กลับมาบ้านโจทก์ทราบว่าจำเลยที่ 1 ขายฝากที่ดินพิพาทไว้แก่จำเลยที่ 2 แล้ว โจทก์มิได้คัดค้านอย่างไร ดังนั้น เมื่อโจทก์ทราบถึงการขายฝากที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2อันเป็นมูลเหตุที่โจทก์จะขอให้เพิกถอนการขายฝากได้ตั้งแต่ปี 2525แต่โจทก์มาฟ้องขอให้เพิกถอนในปี 2530 จึงพ้นหนึ่งปี นับแต่วันที่ได้รู้เหตุอันเป็นมูลให้เพิกถอนนิติกรรม คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 240 และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. 2519มาตรา 1480 วรรคสาม ซึ่งใช้บังคับในขณะเกิดเหตุพิพาทคดีนี้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th