ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


ได้ความว่านางดำจำเลยมีสตางค์ปลอมไว้จำหน่าย ในวันเจ้าพนักงานไปจับนางเจือกับนางสาวกุลจำเลยได้ช่วยย้ายของกลางไปไว้ยังเรือตน แล้วนางสาวกุลจึงเอาสตางค์ปลอมทิ้งน้ำเสีย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนางสาวกุลนางเจือจำเลยตามกฎหมายอาญา ม.๒๐๓,๖๕ ฐานเป็นผู้สมรู้
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของนางเจือและนางสาวกุลไม่เข้าเกณฑ์สมรู้ตามกฎหมาย เมื่อโจทก์ฟ้องหาว่านางสาวกุล นางเจือสมคบกับนางดาจำเลยก็ต้องยกฟ้องโจทก์ตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๑๙๒
ศาลฎีกาตัดสินว่าข้อเท็จจริงคงได้ความว่าจำเลยรับของกลางมาใส่เรือจำเลยทั้ง ๒ เพื่อมิให้เจ้าพนักงานยึดจับไป จึงไม่เรียกว่าจำเลยทั้ง ๒ ได้อุ+กระนางดากระทำผิดอย่างใด เจตนาของนางเจือนางสาวกุลจำเลยก็เพื่อทำให้สักขีพะยานศูนย์หายไปจากความยึดถือของนางดาซึ่งเพื่อมิให้นางดาต้องรับอาญา เป็นความผิดตาม ม.๑๕๔ แต่จะลงโทษตามมาตรานี้มิได้ ขัดต่อประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๑๙๒ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยทั้ง ๒ นี้ชอบแล้ว พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








