ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 2ได้ขับรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ไปในทางการที่จ้างหรือได้รับมอบหมายของจำเลยที่ 2 ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวัง เป็นเหตุให้รถดังกล่าวชนรถบรรทุกเล็ก ส่วนบุคคลของโจทก์ซึ่งมีนายสะอาดนิโรจน์ เป็นคนขับได้รับความเสียหายและนายสะอาดได้ถึงแก่ความตายขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 82,325 บาทพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 ให้การว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยที่ 1 มิได้เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 เหตุที่รถยนต์บรรทุกเล็กเกิดชนกับรถยนต์บรรทุกสิบล้อของจำเลยที่ 2เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกเล็กเพียงฝ่ายเดียวรถยนต์บรรทุกเล็กสามารถทำการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิมในราคา 3,000 บาท และค่าเสื่อมราคาไม่เกิน 500 บาท ส่วนค่าเสียหายในเรื่องค่าเช่าซื้อโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง หลังเกิดเหตุแล้ว นางพะเยาว์ นิโรจน์ ภรรยาและทายาทนายสะอาด นิโรจน์ เจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกเล็กกับจำเลยที่ 2 ได้ทำบันทึกข้อตกลงสัญญาประนีประนอมยอมความชดใช้ค่าเสียหายในการทำศพ ค่าซ่อมรถยนต์และจำเลยได้ชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมเสร็จสิ้นแล้ว มูลหนี้ละเมิดตามฟ้องจึงระงับไป ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่าโจทก์เป็นเจ้าของรถมีอำนาจฟ้อง จำเลยที่ 1 ทำการในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดตามกฎหมาย เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากความประมาทของจำเลยที่ 1 โจทก์มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายและค่าเสื่อมราคาเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท ส่วนค่าขาดประโยชน์จากการเช่าซื้อเป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องไปเรียกร้องจากผู้เช่าซื้อหรือทายาทผู้เช่าซื้อ พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จ

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยในปัญหาว่าหนี้ตามฟ้องระงับไปหรือไม่ว่า เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่านายสะอาดเป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์คันที่เสียหายกับโจทก์ นายสะอาดย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายต่อบุคคลผู้กระทำความเสียหายแก่รถที่นายสะอาดเช่าซื้อได้ เมื่อนายสะอาดถึงแก่ความตายในระหว่างที่ยังเช่าซื้อ นางพะเยาว์ภรรยานายสะอาดในฐานะทายาทของนายสะอาดย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายของรถนั้นจากผู้ทำละเมิดได้โดยเหตุนี้นางพะเยาว์ย่อมมีสิทธิที่จะทำสัญญาประนีประนอมยอมความในการทำละเมิดนี้ได้ เมื่อปรากฏว่านางพะเยาว์ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในเรื่องค่าเสียหายของทรัพย์สินดังกล่าวจากจำเลยที่ 2 โดยชอบแล้ว สิทธิเรียกร้องในมูลละเมิดดังกล่าวย่อมระงับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น เมื่อโจทก์เห็นว่าตนได้รับความเสียหายอย่างไรก็ต้องไปไล่เบี้ยเอากับผู้เช่าซื้อหรือผู้สืบสิทธิของผู้เช่าซื้อต่อไป

สำหรับจำเลยที่ 1 ลูกจ้างแม้จะไม่ได้ฎีกา แต่หนี้ตามฟ้องเป็นหนี้ในมูลละเมิด ซึ่งเป็นหนี้ร่วมอันไม่อาจแบ่งแยกได้ จำเลยที่ 1 จึงได้รับผลจากคำพิพากษานี้ด้วย ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 245(1), 247

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th