ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาศาลแพ่งแล้วผิดนัดไม่ชำระหนี้ ศาลออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการยึด อายัดทรัพย์สินของจำเลย ต่อมาจำเลยโอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่นางสาวพัชรา ธนะสัมบัญเพื่อมิให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งโจทก์ได้ใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้จำเลยชำระหนี้แล้ว จำเลยได้โอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวไปเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 จำคุก 6 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้เป็นยุติว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมซึ่งศาลแพ่งมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2538 จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์จึงขอให้ศาลแพ่งออกหมายบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สินของจำเลยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2538 แต่ปรากฏว่าจำเลยได้ทำสัญญาขายที่ดินโฉนดเลขที่ 182413 ตำบลคลองกุ่ม อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่นางสาวพัชรา ธนะสัมบัญ ไปเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2538

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 หรือไม่ศาลฎีกาเห็นว่า หลังจากจำเลยตกเป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาแล้วเหตุที่จำเลยไปทำสัญญาขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของจำเลยให้แก่นางสาวพัชราในภายหลังอีก ก็เนื่องจากในวันที่ 24 สิงหาคม 2538 จำเลยและนายเหมือน โปมิ่ง สามีจำเลยถูกธนาคารทหารไทย จำกัด ฟ้องให้ร่วมกันรับผิดชำระหนี้เงินกู้จำนวน 420,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยและธนาคารได้ขอบังคับจำนองที่ดินแปลงดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จำเลยนำไปจำนองไว้เป็นประกันการกู้ยืมด้วย แม้ธนาคารทหารไทย จำกัดจะได้ฟ้องคดีหลังจากที่โจทก์ฟ้องจำเลยแล้วก็ตาม แต่หนี้ที่จำเลยมีอยู่ต่อธนาคารเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 และเชื่อได้ว่าเป็นหนี้ที่มิได้เกิดจากการสมยอมระหว่างจำเลยกับธนาคาร ดังนั้น การที่จำเลยตกลงยินยอมให้นางสาวพัชราเป็นผู้ชำระหนี้เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินต่อธนาคารแทนจำเลย และรับโอนที่ดินไปโดยมีข้อตกลงให้จำเลยซื้อที่ดินคืนกลับไปได้ โดยนางสาวพัชรเบิกความว่าต้องชำระเงินต้นกับดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แก่ธนาคารทหารไทย จำกัด รวมเป็นเงินประมาณ 600,000 บาท การที่จำเลยทำสัญญาโอนขายที่ดินให้แก่นางสาวพัชราดังกล่าวจึงเป็นกรณีที่จำเลยต้องกระทำเพื่อมิให้ธนาคารทหารไทยเจ้าหนี้ผู้รับจำนองบังคับจำนองแก่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของจำเลย ถือไม่ได้ว่าจำเลยโอนขายทรัพย์สินของตนไปโดยเจตนาที่จะไม่ให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้รับชำระหนี้ตามฟ้อง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามฟ้องโจทก์

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th