ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์โดยความประมาทชนรถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างและหรือตัวการ ตัวแทนของจำเลยที่ 2 ในขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 2 ให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ได้บรรยายให้แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับที่จะให้จำเลยที่ 2จะต้องรับผิดอย่างไร โดยไม่บรรยายให้เห็นว่าจะต้องรับผิดในฐานะอะไร ในฐานะลูกจ้างหรือนายจ้างหรือลูกจ้างซึ่งได้กระทำไปในทางการที่จ้าง และจะต้องรับผิดเพราะเหตุใด หรือจะให้รับผิดในฐานะตัวการตัวแทนเพราะอะไร ทำให้จำเลยที่ 2 ไม่สามารถที่จะเข้าใจสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ และคำขอบังคับที่จะให้รับผิดจึงไม่สามารถที่จะต่อสู้คดีได้ถูกต้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันทำละเมิดเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ข้อแรกก่อนว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ พิเคราะห์แล้วโจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2530เวลาประมาณ 16 นาฬิกา จำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน81-3846 กรุงเทพมหานคร ออกจากทางแยกลาดพร้าว โฉมหน้าไปทางแยกบางกะปิ ไม่รักษาเส้นทางและด้วยความประมาทเลินเล่อรถเสียหลักแล่นเข้าชนรถของโจทก์คันหมายเลขทะเบียน 2ย-5901กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บริเวณหน้าปากทางซอยลาดพร้าว 67อย่างแรง เป็นเหตุให้รถโจทก์พุ่งไปชนรถอีกคันหนึ่งซึ่งจอดอยู่ด้านหน้ารถโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นค่าซ่อม ค่าเสื่อมราคาและค่าขาดประโยชน์ รวมทั้งหมดเป็นเงินจำนวน 68,500 บาท สำหรับจำเลยที่ 2 นั้น โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างและหรือตัวการ ตัวแทนของจำเลยที่ 2 ในขณะเกิดเหตุ ฉะนั้น จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย เห็นว่า เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 โจทก์ไม่ได้ยืนยันว่า จำเลยที่ 1 ได้กระทำการละเมิดในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 หรือในกิจการแทนจำเลยที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดในการทำละเมิดของจำเลยที่ 1 ตามกฎหมายด้วย คำฟ้องของโจทก์ไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่านั้นฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 จึงเป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุมเมื่อฟังว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมก็ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่น ๆของจำเลยที่ 2 ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาจำเลยที่ 2 ฟังขึ้น

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 ทั้งสามศาลให้เป็นพับนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th