ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


เดิมจำเลยทำสัญญากู้เงิน ย.๓๖๐ บาท ใช้บ้างแล้วคงค้างอยู่ ๒๑๐ บาท ฝ่ายจำเลยเป็นเจ้าหนี้ ย.รวมทั้งต้นเงินแลดอกเบี้ย ๕๒๐ บาท เมื่อวันที่ ๑/๔/๒๔๗๕ ย.โอนสิทธิเรียกร้องในเงิน ๒๑๐ บาทนั้นให้โจทก์ โจทก์แล ย.ได้มีหนังสือแจ้งการโอนให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ ๔/๔/๒๔๗๕ จำเลยมีหนังสือไปยังโจทก์แล ย.ว่าจำเลยเป็นหนี้ ย. มากกว่าที่โอน ควรหักกลบลบกัน
ต่อมาวันที่ ๑๐/๖/๒๔๗๕ จำเลยในคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องเรียกเงินจาก ย.และขอให้หักหนี้ด้วย ศาลแพ่งพิพากษาให้ ย.ใช้เงินให้เต็มจำนวนโดยไม่ยอมให้หักหนี้โดยกล่าวว่าการโอนได้สำเร็จไปแล้ว จะมาขอหักหนี้ไม่ได้ ในคดีนั้นจำเลยยึดเงินจาก ย.ได้เพียง ๘๐ บาท
โจทก์จึงได้ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยในคดีนี้จำเลยต่อสู้ขอให้หักหนี้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพฤตติการณ์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ยินยอมด้วยในการโอนฉะนั้นจำเลยมีข้อต่อสู้ผู้โอนก่อนการโอนฉันใดก็ยกขึ้นต่อสู้ผู้รับโอนได้ฉันนั้นตาม ม.๓๐๘ วรรคท้าย จำเลยจึงขอหักหนี้กับโจทก์ได้ส่วนคดีเรื่องจำเลยฟ้อง ย.นั้น ศาลแพ่งได้กล่าวไว้ด้วยว่า "ถ้าหากจะเป็นข้อต่อสู้ในการหักกลบลบหนี้แก่ผู้รับโอนได้ประการใด ก็ต้องไปว่ากล่าวกันส่วน ๑" ฉะนั้นจำเลยจึงยังมีสิทธิยกขึ้นขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์ได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ ยืนตามศาลอุทธรณ์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา







