ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๓๐ เวลากลางวัน จำเลยมีไม้สักแปรรูปจำนวน ๑๐ แผ่น ปริมาตร ๐.๑๑๒ ลูกบาศก์เมตร และไม้พลวงแปรรูปจำนวน ๔๐ แผ่น ปริมาตร ๐.๘๘๒ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. ๒๕๐๕ ไว้ในความครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๘๘, ๗๒, ๗๔ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๙ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙ พระราชบัญญัติป่าไม่ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๔ ริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘, ๗๓, ๗๔ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๙ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๔ ให้ลงโทษจำคุก ๑ ปี ปรับ ๓,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๖ เดือน ปรับ ๑,๕๐๐ บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๔, ๓๐ ของกลางริบ โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว โจทก์ฎีกาว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีไม้สักและไม้พลวงไว้ในความครอบครองโดยแยกจำนวนและปริมาตรของไม้สักไว้จำนวนหนึ่ง และแยกไม้พลวงไว้อีกจำนวนหนึ่ง ตามเจตนารมณ์ของมาตรา ๔๘ และมาตรา ๗๓ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ที่แก้ไขแล้วนั้นประสงค์ให้ลงโทษความผิดฐานมีไม้สักไว้ต่างหากกระทงหนึ่ง และไม้พลวงกับไม้ชนิดอื่น ๆ อีกกระทงหนึ่ง เพราะไม้สักไม่ว่าจะมีจำนวนเท่าใดก็เป็นความผิด ส่วนไม้ชนิดอื่น ๆ ต้องมีจำนวนเกิน ๐.๒๐ ลูกบาศก์เมตร การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรมนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้แปรรูป ๒ จำนวนในคราวเดียวกันโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เพียงแต่เป็นไม้ต่างชนิดกันเท่านั้น และการกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘, ๗๒ ที่แก้ไขแล้ว ซึ่งเป็นบทมาตราเดียวกัน แม้การมีไม้สักแปรรูปจะเป็นความผิดโดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนปริมาตรของไม้ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งต่างกับไม้พลวงแปรรูปที่จะต้องมีปริมาตรเกิน ๐.๒๐ ลูกบาศก์เมตร จึงจะเป็นความผิดก็ตาม ก็หาทำให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันดังฎีกาของโจทก์ไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th