ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย จำเลยเลิกจ้างโจทก์อ้างว่าโจทก์บกพร่องด้านมนุษยสัมพันธ์ ทำให้มีการแตกแยก ทำงานไม่เป็นที่น่าพอใจ ข้อกล่าวหาของไม่เป็นความจริง การกระทำของจำเลยเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยรับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่งและหน้าที่เดิม ค่าจ้างเท่าเดิม รวมทั้งสวัสดิการอื่น ๆ โดยนับอายุการทำงานติดต่อกันเสมือนไม่มีการเลิกจ้าง พร้อมทั้งชำระค่าจ้างที่โจทก์ได้รับนับแต่วันเลิกจ้างจนถึงวันรับกลับเข้าทำงาน หากจำเลยไม่ยอมรับโจทก์กลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่เดิม จำเลยต้องจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์เป็นเงิน 76,207 บาท ค่าโบนัสประจำปี 25,402 บาท จำเลยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้าจึงต้องชดใช้ค่าเสียหาย 152,412 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 254,021 บาท ให้จำเลยใช้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จ

จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยขาดความไว้วางใจในตัวโจทก์และไม่ประสงค์ที่จะจ้างโจทก์ต่อไป จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยเสนอเงินชดเชยให้แก่โจทก์ตามกฎหมาย โจทก์ไม่ยอมรับเงินค่าชดเชยเอง จำเลยไม่เคยกล่าวอ้างว่าโจทก์บกพร่องด้านมนุษยสัมพันธ์ จำเลยเคยติเตียนว่าโจทก์มีความคิดขัดแย้งกับผู้ร่วมงานทำงานไม่ประสานกันเท่าที่ควร จำเลยถือว่าเป็นเหตุหนึ่งที่เลิกจ้างโจทก์ด้วย ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมจำเลยไม่อาจรับโจทก์เข้าทำงานได้ โจทก์มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน แต่โจทก์ไม่มีสิทธินำค่าครองชีพมารวมคำนวณด้วย โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินโบนัสประจำปี โจทก์ไม่เสียหายตามที่คำนวณมาในฟ้อง จำเลยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยตามจำนวนเงินที่โจทก์เรียกร้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม การเลิกจ้างโจทก์เป็นธรรม สมควรกำหนดค่าชดเชยให้ 76,206 บาท และสินจ้างที่มิได้บอกกล่าวล่วงหน้าเท่ากับค่าจ้างหนึ่งเดือน 12,701 บาท พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 88,907 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ คำขออื่นให้ยก

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การเลิกจ้างเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมนั้น จะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงเป็นเรื่อง ๆ ไป การที่ ธ. ลูกจ้างจำเลยและอยู่ใต้บังคับบัญชาของโจทก์ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ที่มีอยู่ในบริษัทจำเลยไปขายสินค้าส่งสินค้า เรียกเก็บเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ตนมีหุ้นส่วนอยู่ทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทจำเลย โจทก์เป็นผู้บังคับบัญชา ธ. โจทก์ได้รู้เห็นการกระทำของ ธ. ที่ทำให้จำเลยเสียหาย ทำให้จำเลยมีความระแวงสงสัยและไม่ไว้ใจในตัวโจทก์ กับการทำงานของโจทก์มีผลงานไม่เป็นที่พอใจจำเลย จำเลยย่อมมีสิทธิจะรักษาผลประโยชน์ของตนเอง มีสิทธิที่จะเลิกจ้างโจทก์ได้ การที่โจทก์มีพฤติการณ์ดังกล่าว แล้ว จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ เป็นการเลิกจ้างที่มีเหตุสมควรและเป็นธรรม

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th