ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2538 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองร่วมกันบุกรุกเข้าไปในที่ดินของนายสุรพันธ์ จงรักษ์ ผู้เสียหาย ที่เป็นผู้มีอาชีพกสิกรรมทำสวนยางพารา แล้วจำเลยทั้งสองร่วมกันตัด ฟันต้นยางพาราซึ่งเป็นพืชผลกสิกรรม จำนวน 17 ต้น คิดเป็นเงิน 170,000 บาท เป็นการทำให้เสียหายทำให้เสื่อมค่า ทำให้ไร้ประโยชน์ และรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสุข และจำเลยทั้งสองร่วมกันลักเอาต้นยางพาราจำนวน 17 ต้นคิดเป็นเงิน 170,000 บาท ไปโดยทุจริต และโดยใช้รถยนต์บรรทุกเป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อให้พ้นการจับกุมในวันเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยทั้งสองพร้อมยึดต้นยางพารา17 ต้น รถยนต์บรรทุกสิบล้อ 4 คัน เครื่องเลื่อยยนต์ 2 เครื่อง เป็นของกลางขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7)(12), 336 ทวิ,358, 359, 362, 365 กับให้คืนต้นยางพาราของกลางแก่เจ้าของ

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(7)(12), 336 ทวิ, 359(4), 365(2) ความผิดฐานบุกรุกเป็นความผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แต่ความผิดตามกฎหมายดังกล่าวมีโทษเท่ากันจึงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359(4) ให้จำคุก 1 ปีความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 335 วรรคสาม, 336 ทวิ ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือนรวมจำคุก 2 ปี 6 เดือน ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี8 เดือน คืนต้นยางพาราของกลางแก่เจ้าของ ข้อหาอื่นให้ยกและให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7)(12) วรรคสาม ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิ, 359(4) ประกอบด้วยมาตรา 358, 365(2) ประกอบด้วยมาตรา 362 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 335(7)(12) วรรคสาม ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี 6 เดือนลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติว่า ในวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 เข้าไปในที่ดินของผู้เสียหายแล้วตัดโค่นต้นยางพาราจำนวน17 ต้น และเอาต้นยางพาราดังกล่าวไปโดยใช้รถยนต์บรรทุก อันเป็นความผิดฐานบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์ตามฟ้องของโจทก์

คงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์เป็นประเด็นข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 กรณีบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์กับกรณีลักต้นยางพาราเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน มิใช่กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทดังศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยที่ 1 บุกรุกเข้าไปในที่ดินของผู้เสียหาย แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจำเลยที่ 1 มีความมุ่งหมายที่จะเข้าไปตัดโค่นต้นยางพาราซึ่งอยู่ในที่ดินดังกล่าวแล้วนำออกไปจากที่ดินโดยใช้รถยนต์บรรทุกสิบล้อบรรทุกต้นยางพาราไปจึงเป็นการกระทำที่มีเจตนาเดียวต่อเนื่องกันตลอดมาไม่ขาดตอนอันเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 หาใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามมาตรา 91 ดังที่โจทก์กล่าวอ้างไม่"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th